ชาวบ้านแห่ร้องศูนย์ดำรงธรรมอ้างนโยบายลุ่งตู่หลอกพาไปกู้เงินต้องเป็นหนี้ธนาคารแต่ไม่ได้จับเงิน
ชาวบ้านเกือบ 20 คน รวมตัวเข้าร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิจิตรหลังถูกบุคคลแอบอ้างชักชวนให้รวมตัวตั้งกลุ่มฌาปนกิจ , กลุ่มสัจจะ , กลุ่มออมทรัพย์ บอกเป็นนโยบายโครงการของรัฐบาลที่ลุ่งตู่จะปล่อยให้กู้เงินผ่านธนาคารออมสิน ชาวบ้านหลงเชื่อตกเป็นลูกหนี้ธนาคารแต่ไม่ได้จับเงิน รวมตัวร้องทุกข์แจ้งความ คาดมีผู้เสียหายนับร้อยราย วงเงินหลายล้านบาท วันที่ 16 ต.ค. 2562 ที่ศูนย์ดำรงธรรมศาลากลางจังหวัดพิจิตร นายทรงพล จันทร์สิงห์ อยู่บ้านเลขที่ 147 หมู่ 5 ต.ป่ามะคาบ อ.เมืองพิจิตร , นายเฉลิม พุ่มสว่าง อยู่บ้านเลขที่ 348/1 ถนนพระพิจิตร อ.เมืองพิจิตร และชาวบ้านรวมแล้วเกือบ 20 คน ที่แต่ละคนต้องตกเป็นหนี้ธนาคารออมสินตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักแสนบาท ได้รวมตัวกันมาร้องทุกข์ที่ศูนย์ดำรงธรรม โดยมี นายสิริบูรณ ชูตระกูร ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิจิตร และพ.ต.ท.กฤติกร ปานผล หัวหน้าชุดเฉพาะกิจศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิจิตร เป็นผู้รับเรื่องโดยชาวบ้านกลุ่มนี้แจ้งว่าพวกตนเอง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้มีอาชีพรับจ้างหาเช้ากินค่ำได้ถูก บุคคลที่มีชื่อเล่นว่า “ นางนิชา” นามสมมุติ บ้านอยู่ในเขตถนนบึงสีไฟ อ.เมืองพิจิตร มาชักชวนบอกว่ามีนโยบายของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่จะให้คนจนกู้ยืมเงินโดยผ่านธนาคารออมสิน แต่ให้รวมเป็นกลุ่มและทำเป็นกลุ่มฌาปนกิจ , กลุ่มสัจจะ , กลุ่มออมทรัพย์ จากนั้นผู้ที่แอบอ้างโครงการลุงตู่ ก็ดำเนินการทางเอกสารและพาไปกู้ยืมเงินที่ธนาคารออมสินสาขาพิจิตร โดยได้เปิดบัญชีมีสมุดบัญชี บัตรเอทีเอ็ม ของธนาคารออมสินสาขาพิจิตร แต่ “ นางนิชา” นามสมมุติ ซึ่งอ้างตนเป็นประธานกลุ่มได้ขอยึดและเก็บ สมุดบัญชี บัตรเอทีเอ็ม ของธนาคารออมสินสาขาพิจิตร ของทุกคนไป จากนั้นก็มีเงินโอนที่เป็นเงินกู้จากธนาคารออมสินโอนเข้าบัญชีของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ โดยทุกคนที่ตกเป็นเหยื่อรู้ว่ามีเงินโอนเข้าเนื่องจากได้สมัครเป็นสมาชิกแอพพลิเคชั่นของธนาคารออมสิน จึงรู้ว่ามีเงินเข้า แต่หลังจากนั้นไม่กี่นาทีก็ถูก “ นางนิชา” นามสมมุติ ซึ่งอ้างตนเป็นประธานกลุ่ม นำบัตรเอทีเอ็มไปกดเงินจนเกลี้ยงบัญชี พวกตนไปทวงถามว่าเงินที่กู้ธนาคารมาทำไมพวกตนจึงไม่ได้ใช้เงินก้อนนี้ “ นางนิชา” นามสมมุติ ซึ่งอ้างตนเป็นประธานกลุ่ม ก็บอกว่าต้องนำเงินไปหมุนและนำไปให้คนอื่นกู้ยืมก่อนเป็นไปตามระเบียบที่ตกลงกันไว้มิใช่หรือ? เวลาผ่านไป 4-5 เดือน พวกตนจับเข่าคุยกัน ทุกคนก็โดนในลักษณะเช่นนี้ คือ ไปกู้เงินธนาคารตกเป็นลูกหนี้ธนาคารแต่ไม่ได้จับเงิน ถึงวันนี้ที่ร้อนใจจนต้องมาร้องที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิจิตร ก็เพราะว่ามีหนังสือแจ้งสภาพการเป็นลูกหนี้ของธนาคารออมสินส่งมาและมีกำหนดเวลาที่จะต้องไปใช้หนี้ให้กับธนาคาร พวกตนจึงได้รู้ว่าน่าจะถูกหลอกจึงได้มาร้องทุกข์ยังศูนย์ดำรงธรรมพิจิตร ซึ่งก็ได้รับเรื่องพร้อมทั้งให้ความรู้ให้คำแนะนำทางกฎหมาย พร้อมทั้งให้ไปแจ้งความที่ สภ.เมืองพิจิตร เพื่อดำเนินคดี ซึ่งกลุ่มผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ณรงค์ ทับมา รองผกก.สอบสวน สภ.เมืองพิจิตร เป็นผู้รับแจ้งความเพื่อจะได้สอบสวนหาข้อมูลและหลักฐานพร้อมทั้งจะได้เรียก “ นางนิชา” นามสมมุติ ที่อ้างตนเป็นประธานกลุ่ม มาทำการสอบสวนและดำเนินคดีต่อไป ล่าสุดได้มีตัวแทนของศูนย์ประสานงานเครือข่ายชุมชนแห่งหนึ่งที่ถูกพาดพิงได้โทรศัพท์มาชี้แจงกับผู้สื่อข่าว ว่า..กลุ่มผู้ที่ไปร้องทุกข์ร้องเรียนหรือไปแจ้งความที่ สภ.เมืองพิจิตร นั้น น่าจะเป็นการเข้าใจผิดและไม่ทราบถึงกฎกติกาหลักเกณฑ์ ซึ่งขณะนี้ประธานของศูนย์ฯ และคณะกรรมการ กำลังรวบรวมเอกสารเพื่อที่จะชี้แจงให้สาธารณะชนและสมาชิกที่มีมากถึง 8 ตำบล ได้เข้าใจและเจตนาที่บริสุทธิ์ที่ดำเนินการอยู่ทุกวันนี้ต่อไปอีกด้วย