สภาเกษตรกรพิจิตรส่งเสริมปลูกขนุนเป็นทางเลือกใหม่ชี้ประเทศจีนเปิดตลาดรับซื้อราคาดี
เกษตรกรจังหวัดพิจิตรบูรณาการร่วมกับผู้ประกอบการรับซื้อพืชผลการเกษตร รวมกลุ่มเกษตรกรสนับสนุนปลูกขนุนพันธุ์ทองประเสริฐเป็นไม้ผลทางเลือกใหม่ เชื่อมั่นอนาคตรุ่ง เหตุประเทศจีนเปิดออเดอร์ขอซื้อเป็นจำนวนมากแต่ปัญหาคือ หาผลผลิตไม่ได้เป็นกอบเป็นกำจึงต้องเร่งส่งเสริมปลูกขนุนเพื่อรองรับตลาดการส่งออก เกษตรกรต้นแบบเผยปลูกขนุน 8 ไร่ 1 ปี ขายได้เกือบ 4 แสนบาท แถมต้นทุนต่ำดูแลง่าย วันที่ 1 ก.ย. 2563 นายศุภเดช แสนภูมินิเทศ หัวหน้าสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดพิจิตร ลงพื้นที่พบกลุ่มเกษตรกรที่สมัครเป็นสมาชิกกลุ่มผู้ปลูกขนุนเพื่อการส่งออก ที่ขณะนี้มีสมาชิกแล้ว 42 ราย ซึ่งปัจจุบันมีทั้งผู้ที่มีอาชีพทำนาและมีอาชีพเป็นชาวสวนปลูกส้มโอ แต่สนใจที่จะขอปลูกพืชหลากหลายเพื่อเป็นทางเลือกทางรอดดีกว่าที่จะเสี่ยงปลูกพืชเชิงเดี่ยวที่ขอเลือกปลูกขนุนพันธุ์ทองประเสริฐเพื่อการส่งออก โดยสมาชิกกลุ่มผู้ประสงค์ที่จะปลูกขนุน 42 ราย พื้นที่กว่า 200 ไร่ ได้เข้าร่วมรับฟังและลงพื้นที่ดูสวนขนุนพันธุ์ทองประเสริฐของ นายบุญเลิศ อินทะกะ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 145/1 หมู่ 1 บ้านบึงโพธิ์ อ.โพธิ์ประทับช้าง ที่อดีตเป็นเกษตรกรผู้ปลูกส้มโอแต่ตัดสินใจปรับเปลี่ยนพื้นที่ปลูกส้มโอเป็นพื้นที่ปลูกขนุน 8 ไร่ กล่าวว่า เหตุที่ตัดสินใจหันมาปลูกขนุนบนเนื้อที่ 8 ไร่ ระยะห่าง 7x7 เมตร 1 ไร่ ปลูกได้ 30 ต้น อายุต้นขนุนขณะนี้ 3 ปี ผลผลิตที่ได้คือ 1 ต้น จะได้ผลผลิตประมาณ 150 กก./ต้น เหตุที่ตัดสินใจปรับเปลี่ยนจากการปลูกส้มโอ แล้วหันมาเลือกปลูกขนุนเพราะการดูแลรักษาก็ไม่ยุ่งยาก ง่ายกว่าส้มโอ อีกทั้งการใช้สารเคมีเพื่อกำจัดแมลงหรือการใส่ปุ๋ยต่างๆก็น้อยกว่าการปลูกส้มโอ ขนุนใช้เวลาเพียง 2 ปี ก็สามารถเก็บผลผลิตขายได้อย่างต่อเนื่องตลอดปี