พิจิตรผู้บริโภคอ่วมแน่ราคาพืชผักแห่ปรับราคาขึ้นตามราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและราคาก๊าซหุงต้ม
ผลกระทบจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและราคาก๊าซหุงต้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลกระทบให้ราคาพืชผักผลไม้ ปรับราคาสูงขึ้นตามราคาต้นทุนที่สูงขึ้น ขณะที่ราคาอาหารทะเลเตรียมปรับราคาสูงขึ้นในระเวลาอันใกล้นี้ วันที่ 23 พฤษภาคม 2561 นางพะเยาว์ แม่ค้าจำหน่ายผักสดในตลาดสดเทศบาลเมืองพิจิตร กล่าวว่าผลกระทบจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและราคาก๊าซหุงต้มปรับราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาพืชผัก ผลไม้ หลายชนิดที่รับมาจากแหล่งผลิตและแหล่งค้าส่งจากสถานที่ต่างๆปรับราคาเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ขึ้นราคา ทำให้ผู้ค้าต้องเพิ่มต้นทุนในการขนส่ง ประกอบกับอยู่ในช่วงที่เข้าสู่มรสุม ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรออกน้อยลง พืชผักเริ่มขาดตลาดจึงต้องมีการปรับขึ้นราคาหลายเท่าตัว ขณะที่ของสดและของทะเลยังมีราคาคงเดิม ซึ่งมีแนวโน้มที่จะปรับราคาเพิ่มขึ้นหลังจากหมดสต็อกล็อตนี้อาจจะมีการปรับเพิ่มราคาสูงขึ้นตามไปด้วย ตามอัตราราคาค่าน้ำมัน ดังนั้นวันนี้พ่อค้าแม่ค้าในตลาดสดเทศบาลเมืองพิจิตร ได้มีการปรับราคาพืชผักหลายรายการสูงขึ้น 10-20 เปอร์เซ็นต์ อาทิเช่น ผักชี ต้นทุนที่รับมากิโลกรัมละ150 บาท ก็นำไปขายปลีกในราคา 200 บาทต่อกิโลกรัม พริกชี้ฟ้า ต้นทุนที่รับมากิโลกรัมละ 70 บาท ก็นำไปขายปลีกกิโลกรัมละ 100 บาท แตงกว่าแต่เดิมราคากิโลกรัมละ 130 บาท ตอนนี้ขยับราคาขึ้นจึงต้องขายปลีกในราคากิโลกรัมละ 250 บาท โดยสรุปสถานการณ์ราคา พืช ผัก ผลไม้ชนิดอื่นๆ ต่างก็ปรับขึ้นราคาตามไปด้วย แม่ค้ายังกล่าวต่ออีกว่า ช่วงนี้เศรษฐกิจย่ำแย่มากๆ ถึงแม้ว่าจะปรับราคาสูงขึ้นแต่ผู้บริโภคนั้นมาซื้อน้อยลง ให้สู้กับราคาต้นทุนแทบจะไม่ไหว บางรายต้องไปกู้เงินนอกระบบมาหมุนเวียนลงทุนอีกด้วย จากสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซหุงต้มขึ้นราคาวันนี้เห็นผลกระทบแล้วจากราคาพืชผักที่ประชาชนต้องใช้บริโภค ซึ่งจะส่งผลสะท้อนไปถึงราคาข้าวราดแกง แกงถุง รวมถึงราคาอาหารกลางวันของเด็กในโรงเรียนต่างๆที่จะหลีกไม่พ้นที่จะต้องเจอการปรับขึ้นราคาตามไปด้วย ผลที่จะเกิดขึ้นคือทั้งผู้ปกครองและเด็กนักเรียนจะต้องตกเป็นเหยื่อของการขึ้นราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซหุงต้ม