พิจิตรเจ้าอาวาสถูกกล่าวหามั่วสีกาชาวบ้านขับไล่สุดท้ายยอมลาออกจากเจ้าอาวาสหลังออกพรรษาขอย้ายวัด
24 ก.ย. 61 นายอัครชัย ได้ผลธัญญา ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยปลัดอำเภอฝ่ายปกครอง ของ อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร และ พระครูวิกรมสมาธิวัฒน์ เจ้าคณะอำเภอ ได้ร่วมกันเข้าเจรจาเพื่อแก้ปัญหาข้อพิพาทระหว่างชาวบ้านกับ พระครูวิราศธรรมาพร อายุ 77 ปี เจ้าอาวาสวัดบึงโพธิ์ ต.โพธิ์ประทับช้าง อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร ทั้งนี้สืบเนื่องจากกลุ่มชาวบ้านจำนวนกว่า 50 คน ได้ร่วมตัวกันประกาศขับไล่เจ้าอาวาสวัดบึงโพธิ์ โดยให้เหตุผลว่าพระรูปดังกล่าวประพฤติตนไม่เหมาะสม โดยอนุญาตให้ผู้หญิงหรือสีกาเข้าไปนอนในกุฏิ อีกทั้งมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ส่งผลให้ชาวบ้านเสื่อมศรัทธาถึงกับประกาศว่า จะไม่ทำบุญตักบาตรและไม่นิมนต์เจ้าอาวาสวัดบึงโพธิ์ ซึ่งอายุ 77 ปี บวชมานาน 35 พรรษา แต่ต้องมามีเรื่องฉาวดังกล่าว จนเป็นเหตุให้บ้านกับวัดเกิดความแตกแยก ซึ่งเจ้าอาวาสรูปดังกล่าวก็ให้เหตุผลว่า ผู้หญิงหรือสีกาที่มานอนในกุฏิเป็นลูกบุญธรรม มาดูแลเนื่องจากพระเจ้าอาวาสรูปดังกล่าว มีอาการเจ็บไข้ได้ป่วย อีกทั้งมาช่วยเก็บกวาดเช็ดถูกุฏิ ไม่ได้มีเรื่องโลกีย์เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยทุกครั้งที่ผู้หญิงหรือสีกาที่เป็นลูกบุญธรรมมาเยี่ยมเยียนที่วัดบึงโพธิ์ พระเจ้าอาวาสรูปนี้ก็จะลงมานอนที่กุฏิหลังเล็กไม่ได้นอนด้วยกัน แต่ชาวบ้านก็ติฉินนินทาว่าการกระทำดังกล่าวไม่เหมาะสมส่วนเรื่องอาวุธปืน พระครูวิราศธรรมาพร เจ้าอาวาสวัดบึงโพธิ์ ก็ยอมรับว่ามีอาวุธปืนลูกซองยาวไว้ในครอบครองจริง เนื่องจากเป็นมรดกตกทอดและเก็บรักษาไว้ไม่ได้เอามายิงหรือเอามาข่มขู่ใคร ซึ่งหลังจากที่ชาวบ้านรวมตัวกันชุมนุมขับไล่จนกลายเป็นเรื่องที่เสื่อมเสียชื่อเสียงของวัดบึงโพธิ์ และเสื่อมเสียในแวดวงพระพุทธศาสนาเพราะเป็นข่าวฉาวไปทั่ว จนในที่สุด นายอัครชัย ได้ผลธัญญา ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพิจิตร , ปลัดอำเภอฝ่ายปกครอง ของ อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร และ พระครูวิกรมสมาธิวัฒน์ เจ้าคณะอำเภอ ก็ได้ร่วมกันเข้าเจรจาเพื่อแก้ปัญหาข้อพิพาทระหว่างชาวบ้าน กับ พระครูวิราศธรรมาพร อายุ 77 ปี เจ้าอาวาสวัดบึงโพธิ์ ต.โพธิ์ประทับช้าง อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร ได้ข้อสรุปว่า พระครูวิราศธรรมาพร เจ้าอาวาสวัดบึงโพธิ์ ไม่ขอยึดติดกับลาภยศประกาศขอลาออกจากการเป็นเจ้าอาวาส แต่ต่อรองว่าจะขอจำวัดปฏิบัติกิจของสงฆ์อยู่ที่วัดบึงโพธิ์ แห่งนี้ ไปจนกว่าจะถึงวันออกพรรษา จากนั้นก็จะขอไปจำวัดอยู่ที่วัดอื่น แต่ชาวบ้านไม่ยอมจะขับไล่ให้ออกจากวัดภายในวันนี้ สุดท้ายทุกฝ่ายต้องช่วยกันเจรจาไกล่เกลี่ยให้เห็นกับคุณงานความดีที่เจ้าอาวาสวัดบึงโพธิ์ที่บวชมานานกว่า 30 พรรษา ที่เคยทำไว้ ส่วนเรื่องของความผิดก็ไม่มีหลักฐานชัดเจนเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพียงคำบอกเล่า คำนินทา หรือ โลกวัชชะ โลกติเตียน เท่านั้น สุดท้ายชาวบ้านเห็นแก่วัด เห็นแก่พระพุทธศาสนา จึงยอมตามคำร้องขอไกล่เกลี่ยของ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา และ เจ้าคณะอำเภอ ดังกล่าว