พิจิตรรักษาการเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลานส่งทนายแจ้งความเอาผิดม็อบป่วนวัด
วัดหลวงพ่อเงินบางคลานยังวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น รักษาการเจ้าอาวาส มอบอำนาจให้ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายและกรรมการวัดเข้าแจ้งความดำเนินคดี สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)และพวกรวม11คนข้อหาบุกรุกตำรวจเผย5ปีมีแจ้งความฟ้องร้องฟัดกันนัวถึง21เรื่อง 5 ต.ค.61 ที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร พระครูพิสุทธิรากร รักษาการเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม หรือ วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ตำบลบางคลาน อำเภอโพทะเล ได้ มอบอำนาจให้ นายกิจชัย บุญปู่ ทนายความและเป็นที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายของวัด พร้อมด้วย นายเสน่ห์ ลือมงคล รักษาการแทนไวยาวัจกร วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน นำพยานหลักฐานที่เป็นภาพถ่ายและคลิปวีดีโอของกลุ่มผู้ถูกกล่าวหาเข้าแจ้งความกับ พ.ต.อ.สุชีพ สิทธิราช ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอำเภอโพทะเล โดยแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ( สนช. ) ท่านหนึ่ง รวมถึงแกนนำชาวบ้านที่ก่อความวุ่นวายและก่อเหตุไม่สงบซึ่งเป็นผู้นำชาวบ้านบุกรุกเข้าไปภายในวัดจำนวนผู้ถูกกล่าวหารวม 11 คน (ตามภาพและพยานหลักฐานที่ปรากฏ) ซึ่งทั้งหมดเป็นกลุ่มแกนนำที่สนับสนุนอดีตเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน รูปเดิมที่ถูกปลดออกจากตำแหน่ง นายกิจชัย บุญปู่ ทนายความและเป็นที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายของรักษาการเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม หรือ วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุที่ต้องเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลที่เป็นระดับแกนนำก่อความไม่สงบในข้อหาบุกรุกแต่หลีกเลี่ยงที่จะระบุว่าแกนนำเป็นใครเพียงแต่บอกว่าผู้ที่เป็นแกนนำคือผู้ที่มียศฐาบรรดาศักดิ์ ที่สังคมเห็นหน้าก็น่าจะรู้ว่าเป็นใครทั้งนี้ก็เพื่อสงวนท่าทีของรูปคดีดังกล่าว ในส่วนของ พ.ต.อ.สุชีพ สิทธิราช ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอำเภอโพทะเล กล่าวว่า ความวุ่นวายของวัดหิรัญญาราม หรือ วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน เป็นคดียืดเยื้อมา 4-5 ปี แล้ว เท่าที่จำได้มีการแจ้งความเอาผิดซึ่งกันและกันเฉพาะที่ สภ.โพทะเล รวมแล้วมากถึง 21 คดี ดังนั้นจึงคิดว่าอยากให้ทั้ง 2 ฝ่าย หันหน้าเข้าใช้วิธีการเจรจาพูดคุยดีกว่าการใช้ข้อกฎหมายฟ้องร้องซึ่งกันและกัน ส่วนในการทำคดีนั้นตำรวจและพนักงานสอบสวนได้สั่งกำชับให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นกลางและเป็นธรรม โดยจะไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่ในส่วนของการแจ้งความในวันนี้ก็ได้ให้ฝ่ายผู้แจ้งความรวบรวมหลักฐานให้ละเอียดเพื่อพนักงานสอบสวนจะได้ออกหมายเรียกบุคคลตามภาพถ่ายและคลิปวีดีโอที่ส่งมาเป็นหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป