พิจิตรชาวบ้านร้องทุกข์มีที่อยู่อาศัยและที่ทำกินอยู่มายาวนานกว่า50 ปีไม่มีเอกสารสิทธิ์วอนภาครัฐและผู้เกี่ยวข้องช่วยชาวบ้านด่วน
16 พ.ย. 61 นายศุภเดช แสนภูมินิเทศ หัวหน้าฝ่ายอำนวยการ รักษาการในตำแหน่งหัวหน้า สำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดพิจิตร ตามภารกิจ 5 ด้าน 1.ปัญหาด้านหนี้สินเกษตรกร 2. ปัญหาเรื่องที่ดินทำกิน 3.ปัญหาเรื่องแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร 4.ปัญหาด้านราคาสินค้าเกษตร 5. ปัญหาด้านสวัสดิการสิทธิเกษตรกร ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งได้รับเรื่องราวร้องทุกข์จาก นายชุ่ม เกิดฤทธิ์ อายุ 51 ปี เป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ สำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดพิจิตร ลงพื้นที่รับเรื่องราวร้องทุกข์เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาของเกษตรกร5 บ้านห้วยขมิ้นแห้ง ต.ท่าขมิ้น อ.โพทะเล จ.พิจิตร ซึ่งเป็นตัวแทนชาวบ้าน 12 ราย ร้องทุกข์ว่า ชาวบ้านเหล่านี้มีบ้านเรือนและที่ดินทำกินอยู่ในหมู่บ้านซึ่งเป็นชุมชนและมีถนนลาดยางตัดผ่านกลางหมู่บ้าน ซึ่งตั้งรกรากอยู่บริเวณดังกล่าวมานานกว่า 50 ปี แต่ปรากฏว่าจากอดีตถึงปัจจุบันราษฎรทั้ง 12 ราย พยายามทำเรื่องเพื่อขอรังวัดที่ดินเพื่อที่จะขอออกโฉนดเวลาผ่านไปยาวนานกว่า 50 ปี ก็ยังไม่มีความคืบหน้า จึงออกมาร้องเรียน ร้องทุกข์ ผ่านสภาเกษตรกรจังหวัดพิจิตร ขอให้เป็นสื่อกลางประสานขอความช่วยเหลือแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วย นายชุ่ม เกิดฤทธิ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.ท่าขมิ้น อ.โพทะเล จ.พิจิตร ได้แสดงเอกสารโฉนดที่ดินของตนเอง ซึ่งเป็นโฉนดที่ดินเลขที่ 16372 เล่ม 162 หน้า 76 ตำแหน่งที่ดิน 5041/2472 เลขที่ดิน 28 หน้าสำรวจ 1410 ซึ่งเป็นโฉนดถูกต้อง แต่ที่ดินของเกษตรกร 12 ราย ซึ่งเป็นแปลงข้างเคียงกลับไม่มีเอกสารสิทธิ์ใดๆ ทั้งๆที่ชาวบ้านใช้พื้นที่ทำกิน ใช้พื้นที่ปลูกสร้างบ้านเรือนมีอาคาร มีบ้านเลขที่ มีทะเบียนบ้าน อยู่อาศัยกันมาหลายช่วงอายุคน แต่ทำไมถึงตกสำรวจในการออกโฉนดที่ดิน ซึ่งส่งผลให้ชาวบ้านเดือดร้อน เนื่องจากไม่สามารถแปลงทรัพย์สินเป็นทุนมาเพื่อใช้ในการลงทุนทำการเกษตรหรือการทำมาหากิน จึงอยากเรียกร้องให้ฝ่ายปกครองและกรมที่ดินหาแนวทางช่วยเหลือชาวบ้านทั้ง 12 ราย นี้ด้วย ในส่วนของ นายสมบูรณ์ บุตรวงศ์ อายุ 72 ปี อาชีพทำนาอยู่บ้านเลขที่ 109 และ นายสุชาติ สัมพันธ์พ่วง อายุ 66 ปี ทั้งสองเป็นชาวบ้าน หมู่ 5 ตำบลท่าขมิ้น เล่าว่า ตนเองอาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวมาตั้งแต่รุ่นพ่อจนถึงรุ่นปัจจุบันนับรวมแล้วน่าจะนานกว่า 50 ปี ที่บ้านเรือนและที่ทำกินไม่มีเอกสารสิทธิ์เป็นโฉนดที่ดินทั้งที่เคยวิ่งเต้นติดต่อจะขอให้กรมที่ดินออกมารังวัดและออกหนังสือรับรองเป็น นส 3 ก. หรือเป็นโฉนดที่ดินก็ได้รับคำตอบว่า ที่ดินแปลงของกลุ่มชาวบ้าน 12 รายนี้ไม่มีในภาพถ่ายทางอากาศ ซึ่งตนเองก็แปลกใจว่า ปัจจุบันยุด 4.0 แล้ว หมู่บ้านของตนหรือชาวบ้านชุมชนห้วยขมิ้นแห้งทั้ง 12 หลังคาเรือน ไม่มีในแผนที่ประเทศไทย เป็นไปได้อย่างไร ทั้งที่จังหวัดพิจิตรตั้งอยู่ภาคเหนือตอนล่างภาคกลางตอนบนหรืออยู่ตรงกลางแผนที่ของประเทศไทยแท้ๆ แต่ทำไมไม่สามารถออกโฉนดที่ดินได้เหมือนอย่างกับที่อื่นๆ จึงอยากเรียกร้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องหาทางแก้ปัญหาและช่วยเหลือด้วย
