เจาะปมร้อน!ขุมทรัพย์100ล้านหลวงพ่อเงินวัดบางคลานเตรียมจดมูลนิธิฯห้ามแตะต้องเงินต้นใช้ได้เพียงเงินดอกผลเท่านั้น

ผ่าประเด็นร้อนขุมทรัพย์100ล้านวัดหลวงพ่อเงินบางคลานต้นเหตุแห่งความวุ่นวาย กลายเป็นมหากาพย์ฟ้องร้องเป็นคดีรกศาล จนญาติโยมเอือมระอา บทสรุปวันนี้รักษาการเจ้าอาวาส กรรมการวัด ผู้ทรงคุณวุฒิ คณะผู้บริหารฝ่ายสงฆ์ เห็นพ้องต้องกันว่า ให้จัดตั้งมูลนิธิหลวงพ่อเงินวัดบางคลานนำเงินก้อนใหญ่ฝากธนาคารห้ามแตะต้องเงินต้นใช้ได้เพียงเงินดอกผลจะได้เลิกแย่งชิงเงินบริจาคของวัดหลวงพ่อเงินบางคลานกันเสียที วันเสาร์ที่ 27 ก.ค. 2562 พระครูพิสุทธิวรากร รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม หรือวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน เปิดเผยว่า เงินของวัดหลวงพ่อเงินบางคลานขณะนี้มีกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งจะนำไปเปิดบัญชีธนาคารและนำเงินเข้าสู่ระบบการบริหารแบบมูลนิธิฯเพื่อให้เงินต้นคงอยู่ แต่จะใช้เพียงดอกผลที่ได้เท่านั้น ซึ่งเรื่องดังกล่าวผู้สื่อข่าว ได้รายงานถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาความวุ่นวายและความแตกแยกที่เกิดขึ้นที่ วัดหิรัญญาราม “วังตะโก” หรือ วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ซึ่งตั้งอยู่ที่หมู่ 5 ตำบลบางคลาน อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร ที่ความวุ่นวายล้วนเกิดจากกิเลสและความโลภของคนที่หวังจะเข้ามามช่วงชิงและบริหารเงินบริจาคที่มีญาติโยมศรัทธาทำบุญ บูชาวัตถุมงคล ของวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน อีกทั้งมีสาเหตุสืบเนื่องมาจากมหาเถรสมาคมหรือพระผู้ใหญ่ระดับบริหารได้มีคำสั่งปลด พระครูวิสิฐสีลาภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม ให้พ้นจากตำแหน่งเจ้าอาวาส ด้วยมูลเหตุหลายเรื่อง จากนั้นก็ได้แต่งตั้ง พระครูพิสุทธิวรากร ให้มาดำรงตำแหน่งรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม หรือวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน แต่เรื่องไม่ได้จบง่ายๆเช่นนั้น ทั้งนี้สืบเนื่องจากฝ่ายอดีตเจ้าอาวาสและคนใกล้ชิดไม่ยอมส่งมอบทรัพย์สินและส่งมอบอำนาจหน้าที่ให้กับรักษาการเจ้าอาวาสจนกลายเป็นคดีความฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาลกันหลายสิบคดี นอกจากนี้ยังมีบุคคลบางคนปลุกระดมจัดหามวลชนมาต่อต้าน ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อประมาณวันที่ 27 กันยายน 2561 ฝ่ายกฎหมายและตัวแทนของรักษาการเจ้าอาวาสวัดหิรัญญารามได้ใช้กระบวนการพิจารณาศาลยุติธรรมจังหวัดพิจิตรเข้าติดตามตรวจสอบทรัพย์สินและให้ส่งมอบบัญชีเงินฝาก เงินสด วัตถุมงคล เงินจากพันธบัตรรัฐบาลและอื่นๆ ซึ่งก็ปรากฏว่า ได้รวบรวมเงินของวัดหลวงพ่อเงินบางคลานที่ซุกอยู่ในบัญชีธนาคารต่างๆ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 61.8 ล้านบาทเศษ และต่อมาก็สืบค้นและรวบรวมเงินของหลวงพ่อเงินที่กระจัดกระจายให้มาอยู่ในบัญชีที่เป็นระบบและสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งขณะนี้รวบรวมเป็นเงินสดไว้ได้แล้วประมาณ 100 ล้านบาทเศษ ซึ่งเงินจำนวนมหาศาลนี้เอง คือต้นเหตุของผู้ออกมาเคลื่อนไหว ปากก็บอกว่า “เรารักหลวงพ่อเงิน” แต่สิ่งที่แอบแฝงน่าจะเป็นเพราะว่า “เรารักเงินสดของหลวงพ่อเงิน” กันเสียมากกว่า ต้นเหตุของปัญหาก็คือ เรื่องเงิน ดังนั้นเพื่อดับปัญหาก็ต้องดับที่ต้นเหตุ นั่นก็คือเรื่องเงิน ซึ่งเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2562 พระครูพิสุทธิวรากร รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม พร้อมด้วย ผู้นำฝ่ายปกครองของอำเภอโพทะเลที่ประกอบด้วย นายอำเภอ , กำนันตำบลบางคลาน , กรรมการฝ่ายคณะสงฆ์ , ผู้ทรงคุณวุฒิ ได้ประชุมร่วมกันลงมติว่า จะจดแจ้งจัดตั้ง“มูลนิธิหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน” เพื่อที่จะนำเงินก้อนใหญ่นี้เก็บไว้ในธนาคาร และ ร่างข้อบังคับของมูลนิธิฯ ว่า การใช้จ่ายเงินของมูลนิธิฯ ให้ใช้จ่ายเงินที่ได้จากดอกผลอันเกิดจากทรัพย์สินที่เป็นทุนของมูลนิธิฯ เท่านั้น ซึ่งข้อดีของการนำเงินก้อนใหญ่ไปอยู่ในรูปแบบมูลนิธิฯ ก็คือ เงินจะอยู่ในความดูแลในรูปแบบคณะกรรมการที่เป็นบุคคลที่สรรหาแล้ว ( อยู่ในตำแหน่งคราวละ 2 ปี ) ว่ามีความน่าเชื่อถือมีความซื่อสัตย์ สุจริต เป็นบุคคลที่สังคมยอมรับเพื่อให้เป็นกรรมการพิจารณาทุกครั้ง ในการใช้เงินที่เกิดจากดอก ผล ของมูลนิธิฯ อีกทั้งเมื่อเป็นมูลนิธิฯ จะมีระเบียบและข้อกฎหมายเข้ามาควบคุมตรวจสอบบัญชีรายรับ-รายจ่าย และงบดุล ที่ต้องตรวจสอบทุกปีตามวาระ ซึ่งก็จะทำให้เกิดความโปร่งใส โดยเรื่องการขอจดแจ้งจัดตั้งมูลนิธิหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ขณะนี้ได้มีการคัดเลือกบุคคลที่มาจากทุกฝ่ายให้เป็นกรรมการและได้ทำข้อบังคับของมูลนิธิฯ เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมถึงส่งเรื่องไปยังส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาอนุมัติ ซึ่งถ้ามีการอนุมัติให้จัดตั้งมูลนิธิฯ คณะกรรมการมูลนิธิฯ ก็จะได้นำเงินส่วนใหญ่ไปฝากไว้ยังธนาคาร เพื่อที่จะได้ไม่ต้องแตะต้องเงินต้นที่เป็นเงินบริจาคของญาติโยม ที่เป็นเงินก้อนใหญ่เพื่อที่เงินเหล่านี้จะได้อยู่ในที่ปลอดภัย ไม่มีใครมายื้อแย่งฉกชิงหรือนำไปใช้นอกลู่นอกทาง ซึ่งน่าจะเป็นทางดับทุกข์ ดับปัญหาของศึกแย่งชิงขุมทรัพย์100ล้านของวัดหลวงพ่อเงินบางคลานดังกล่าว ในส่วนของผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากที่มีข่าวการจดแจ้งจัดตั้งมูลนิธิฯของวัดหลวงพ่อเงินบางคลานรั่วไหลออกไป ก็ปรากฏว่า มีกลุ่มผู้เสียประโยชน์ที่มีความละโมบโลภมาก กำลังรวมตัวยุยงปลุกปั่นส่อเค้าว่าจะก่อหวอดเพื่อล้มไม่ให้จัดตั้งมูลนิธิเพียงเพื่อหวังประโยชน์ส่วนตน ไม่สนประโยชน์ส่วนรวม ซึ่งคงต้องติดตามต่อไปว่า จะมีความวุ่นวายอะไรเกิดขึ้นอีก

ข่าวทั่วไป

  • nppct
  • 11 เม.ย. 2568
  • 174

กอ.รมน.- ตำรวจ.-ปกครองพิจิตร ตรวจสถานบันเทิงยามราตรีต้อนรับเทศกาล สงกรานต์ท่องเที่ยวปลอดภัย

เมื่อคืนที่ผ่านมา พ.อ.สัมฤทธิ์ ฉัตรวัฒนาสกุล รอง ผอ.รมน.จังหวัด พ.จ.(ท.) มอบหมายให้ พ.ต.รณชัย ประจันสี หน.ชุด ชรต.307 กอ.รมน.จังหวัด พ.จ. พร้อมด้วยกำลังพล กอ.รมน.จังหวัด พ.จ. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยว

อ่านต่อ...
กอ.รมน.พิจิตรชื่นชมเกณฑ์ทหารหนุ่มเมืองชาละวัน2อำเภอ35คนสมัครใจรับใช้ชาติ (5 เม.ย. 2568) เหตุแผ่นดินไหวจระเข้นับร้อยตัวที่พิจิตรยังอยู่ดีไม่ต้องห่วง บ่อเลี้ยงยังมั่นคงและปลอดภัยไม่ได้รับผลกระทบใดๆ (30 มี.ค. 2568) กู้ภัยชาละวันช่วยชีวิตหนุ่มจดมิเตอร์ไฟตกบ่อน้ำบาดาลหนำซ้ำเจองูเห่าที่ก้นบ่อรอดชีวิตหวุดหวิด (23 มี.ค. 2568) ผู้ว่าฯ พิจิตร สั่งพาณิชย์จังหวัดแจ้งความดำเนินคดีท่าข้าวโกงชาวนา (21 มี.ค. 2568) พิจิตรอัยการสคช.ใช้กฎหมายเจรจาทวงหนี้ช่วยชาวนาขายข้าวแล้วไม่ได้เงินไกล่เกลี่ยลงตัวยอมผ่อนจ่าย (9 ก.พ. 2568) โรงไฟฟ้าซุปเปอร์เอิร์ธเอนเนอร์ยี6ที่ตั้งอยู่ภาพในนิคมอุตสาหกรรมพิจิตรใส่ใจสิ่งแวดล้อมเป็นมิตรกับชุมชน (26 ม.ค. 2568) โรงไฟฟ้าซุปเปอร์เอิร์ธเอนเนอร์ยี6ใส่ใจสิ่งแวดล้อมเป็นมิตรกับชุมชน (6 เม.ย. 2567) กรมชลประทานโชว์ผลงานงบ515ล้านก่อสร้างปตร.ท่านางงามส่งผลนาข้าว5หมื่นไร่ลุ่มน้ำยมอุดมสมบูรณ์ (20 ก.ค. 2566) กรมชลประทานชี้แจงเร่งแก้ปัญหางานก่อสร้างปตร.วังจิกในแม่น้ำยม (19 มิ.ย. 2566) รองอธิบดีกรมชลประทานลงพื้นที่พิจิตรเร่งงานโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำคลองมาบขานาง (11 พ.ค. 2566)