อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำเสนอแผนพัฒนาบึงสีไฟให้เป็นแหล่งน้ำเพื่อการอนุรักษ์และการท่องเที่ยว

วันที่ 11 มีนาคม 2564 นายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วย นายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ , นายพิศ วิริยะอารีธรรม ประธานสภา อบจ.พิจิตร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประชุมร่วมกันที่ห้องประชุมหลวงพ่อเพชร ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดพิจิตร เพื่อรับฟังแนวทางการฟื้นฟูและอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำบึงสีไฟจาก นายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ ที่เสนอกรอบแนวทางการออกแบบโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูพื้นที่ชุ่มน้ำบึงสีไฟ ให้สอดคล้องกับระบบนิเวศ และเป็นไปตามข้อสั่งการของ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี

โดย นายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร กล่าวในที่ประชุมว่าบึงสีไฟ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางเมืองพิจิตร มีเนื้อที 5,300 ไร่เศษ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กรมเจ้าท่าได้ใช้งบประมาณกว่า 300 ล้านบาท เพื่อทำการขุดบึงสีไฟแล้วนำดินมากองรอขาย ซึ่งขณะนี้ดำเนินการขายดินและขนย้ายดินส่งมอบให้กับผู้ซื้อได้เกือบหมดแล้ว ขั้นตอนต่อไปที่ชาวพิจิตรมุ่งหวัง นั่นคือการปรับภูมิทัศน์ ทำถนนรอบบึงสีไฟ เติมน้ำเข้าบึงสีไฟเพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยมุ่งหวังขอมีเพียงว่าบึงสีไฟ มีน้ำ มีปลา มีดอกบัว ที่สวยสดงดงาม มีทางจักรยาน มีที่ออกกำลังกายและมีอากาศบริสุทธิ์ ต้องการแค่นี้ไม่ต้องการสิ่งปลูกสร้างใหญ่โตให้เป็นภาระต่อการดูแล อีกทั้งบึงสีไฟต่อไปคงเป็นแหล่งน้ำเพื่อรักษาระบบนิเวศและการท่องเที่ยวเท่านั้น

ซึ่ง นายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กล่าวว่า การมาร่วมประชุมในครั้งนี้ กรมทรัพยากรน้ำ มีเป้าหมายในการพัฒนาบึงสีไฟอยู่ 3 ส่วน คือ 1.บึงสีไฟจะทำอย่างไรให้มีระบบนิเวศที่สมบูรณ์ มีคุณภาพน้ำที่ดี มีทิวทัศน์รอบๆบึงสีไฟให้สอดคล้องรับกับแนวทางการอนุรักษ์ฟื้นฟูบึงสีไฟ 2.บึงสีไฟต้องเป็นแหล่งน้ำเพื่อประโยชน์ที่มนุษย์จะใช้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลา หรือเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจการดำเนินการเป้าหมายจะไม่ขุดดินออกจากบึงสีไฟอีกแล้วแต่อาจขยับเคลื่อนย้ายดินทำเป็นเกาะมีนิเวศ มีน้ำลึก น้ำตื้น เพื่อดึงธรรมชาติกลับมา ให้มีนก มีปลา มีดอกบัว ตามที่ชาวพิจิตรต้องการ 3.การพัฒนาบึงสีไฟต้องสอดคล้องกับวัฒนธรรมท้องถิ่นโดยคนพิจิตรต้องยอมรับเพื่อนำเข้าเสนอ คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) โดยผ่าน สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) โดยแนวคิดหรือโครงการต่างๆในอนาคตก็จะต้องบริหารโดย ผู้ว่าฯพิจิตร หรือชาวพิจิตรในนามของ อบจ.พิจิตร ที่มี พ.ต.อ.กฤษฎา ภัทรประสอทธิ์ เป็น นายก อบจ.พิจิตร ซึ่งได้เสนอตัว เสนอความพร้อมขององค์กร ว่า พร้อมที่จะพัฒนาบึงสีไฟดังกล่าว

ข่าวทั่วไป

  • nppct
  • 31 พ.ค. 2568
  • 168

กรมชลประทานปรับแผนงานการก่อสร้างปตร.บ้านวังจิกให้สอดคล้องกับการส่งน้ำในแม่น้ำยม

วันที่ 30 พ.ค. 68 นายทรงสิทธิ์ สุขพานิช ผอ.สนง.ก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 3 กองพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลาง กรมชลประทาน มอบให้ นายธนัท ต้นประสงค์ หัวหน้าฝ่ายก่อสร้างที่ 2 ให้ข้อมูลงานก่อสร้าง ประตูระบายน้ำ

อ่านต่อ...
พิจิตรกองทัพบกส่งทหารช่างพร้อมเครื่องจักรกลเร่งขุดลอกแหล่งน้ำ11แห่งแก้ปัญหาภัยแล้ง (15 มิ.ย. 2563) เจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราชฯ โปรดประทานถุงยังชีพช่วยเหลือชาวอำเภอดงเจริญพิจิตรบรรเทาทุกข์โควิด19 (14 มิ.ย. 2563) ภัยแล้งเป็นเหตุชาวนาพิจิตรกว่า200คนคัดค้านก่อสร้างประตูน้ำบึงสามัคคีกำแพงเพชรอ้างลำคลองต้องใช้น้ำร่วมกัน (6 มิ.ย. 2563) นราพัฒน์ ผช.รมต.เกษตรมั่นใจชลประทานสร้างประตูระบายน้ำในแม่น้ำยมสามารถช่วยแก้ภัยแล้ง (23 พ.ค. 2563) แม่น้ำยมพิจิตรแห้งขอดไม่รอแล้วเขื่อนแก่งเสือเต้นกรมชลประทานเร่งมือสร้างอาคารบังคับน้ำแบบขั้นบันได (21 พ.ค. 2563) ชาวบ้านนับร้อยบุกคลังจังหวัดพิจิตรยื่นคำร้องวันสุดท้ายทบทวนสิทธิ์รับเงินเยียวยา5พัน (15 พ.ค. 2563) ผู้ว่าฯพิจิตรสั่งตั้งการ์ดสูงเพิ่มมาตรการกักกันกลุ่มเสี่ยงเฝ้ารอลุ้น8รายจากมาเลเซีย-อินเดียที่จ่อกลับบ้าน (6 พ.ค. 2563) เจ้าคณะจังหวัดพิจิตรแจกถุงยังชีพช่วยลิเกตะพานหินโอดครวญเจอพิษโควิด19ไม่มีงานแสดง (4 พ.ค. 2563) ผู้ว่าฯพิจิตรใจปล้ำเช่ารีสอร์ทสุดหรูใช้เป็นที่กักตัวผู้ที่มาจากภูเก็ตและพื้นที่แพร่ระบาดโควิด19 (3 พ.ค. 2563) เมืองชาละวันผวาโควิด19ใช้มาตรการเข้มกับชาวพิจิตรที่ไปอยู่ภูเก็ตเดินทางกลับมาบ้าน (2 พ.ค. 2563)