อบจ.พิจิตร จับมือชลประทานเร่งช่วยระบายน้ำให้ชาวนา 2 ตำบลได้เก็บเกี่ยวผลผลิต
วันที่ 3 พฤศจิกายน 2564 พ.ต.อ. กฤษฎา ภัทรประสิทธิ์ นายกอบจ.พิจิตร พร้อมด้วย นายเอกฉัตร เอี่ยมตาล ผอ.โครงการชลประทานพิจิตร ร่วมกันลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาของชาวนา 2 ตำบล คือ ชาวนาจาก หมู่ 3,5 ของ ต.บ้านบุ่ง , หมู่ 1 ของ ต.สายคำโห้ ที่นำโดย สจ.พีรวิชญ์ ประเสริฐชัยวนิช “สจ.ห้า” , น.ส.รุ่งรัตน์ ฉัตรตระกูล กำนันตำบลบ้านบุ่ง ที่พาผู้ใหญ่บ้านและลูกบ้านเกือบ 20 คน ที่ล้วนเป็นชาวนา ร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือกับ นายก อบจ.พิจิตร และชลประทานพิจิตร ว่าผลกระทบต่อเนื่องจากช่วงฤดูน้ำหลาก น้ำท่วม ขณะนี้ยังส่งผลให้นาข้าวกว่า 1 พันไร่ ที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มของ 2 ตำบล ซึ่งปลูกข้าวหอมมะลิขณะนี้ถึงอายุเก็บเกี่ยวแล้ว แต่ปรากฏว่าปริมาณน้ำในทุ่งนายังคงมีน้ำเอ่อท่วมขังเป็นจำนวนมาก ทำให้ไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ จึงอยากให้ทางราชการช่วยเหลือ
โดย นายเจตน์ ศรีสมุทร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.บ้านบุ่ง ซึ่งทำนา 100 ไร่เศษ กล่าวว่า ปัญหาเกิดจากประตูระบายน้ำที่หมู่ 2 ต.บ้านบุ่ง แห่งนี้มีขนาดเล็กและมีวัชพืชกีดขวางทางน้ำทำให้น้ำไม่สามารถไหลไปยัง ต.หัวดง เพื่อลงสู่แม่น้ำน่านได้ อีกทั้งระดับน้ำในแม่น้ำน่านขณะนี้ก็ยังมีปริมาณน้ำสูงเกือบเต็มตลิ่งทำให้ระดับน้ำยันกัน ล่าสุดวันนี้ อบจ.พิจิตร ส่งเครื่องจักรมาช่วยกำจัดวัชพืชเปิดทางน้ำแล้ว ส่วนการแก้ไขระยะยาว นายก อบจ.พิจิตร รับปากจะจัดสรรงบประมาณให้ แต่ต้องผ่านเวทีประชาคมรวมถึง สนง.ชป.พิจิตร ต้องเป็นผู้ออกแบบและดำเนินการให้เป็นไปตามหลักวิชาการและการบริหารจัดการน้ำ
ในส่วนของ นายเอกฉัตร เอี่ยมตาล ผอ.โครงการชลประทานพิจิตร กล่าวว่า วันพรุ่งนี้จะนำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่มาติดตั้งเร่งการสูบน้ำให้อีก 2 เครื่อง ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาวก็จะออกแบบและหางบประมาณมาดำเนินการขยายประตูระบายน้ำที่หมู่ 2 บ้านบุ่งแห่งนี้เพื่อเป็นการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนต่อไปแต่ก็มีคำเตือนว่า ถ้าเรียกร้องให้ระบายน้ำในทุ่งทิ้งลงสู่แม่น้ำน่านเมื่อถึงฤดูที่ต้องการทำนาปรังก็จะต้องยอมรับกับอนาคตที่ปล่อยน้ำทิ้งลงแม่น้ำน่านในครั้งนี้ด้วย ซึ่งเรื่องดังกล่าวเกษตรกรต่างเข้าใจแต่จะขอเลือกเกี่ยวข้าวในครั้งนี้กันก่อน
