พิจิตรเจ้าคณะจังหวัดแจงถูกใส่ร้ายเก็บส่วยข่มขู่รีดไถเงินวัดหลวงพ่อเงินบางคลานวอนฟังความให้รอบด้านก่อนวิพากษ์วิจารณ์

24 ก.ค. 2561 พระราชสิทธิเวที ดร. เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ให้สัมภาษณ์ชี้แจงว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา ที่วัดหิรัญญาราม หรือ วัดหลวงพ่อเงินบางคลานซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร นั้น ได้ชี้แจงว่า...เรื่องจริงที่เกิดขึ้นมาแล้วนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเจ้าคณะจังหวัดพิจิตรเลย แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ล่าสุด...ที่มีกำลังของ ตำรวจ – ทหาร –ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ของสำนักงานพระพุทธศาสนา รวมถึงรักษาการเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน – กรรมการวัด – ไวยาวัจกร ที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ได้ดำเนินการเข้าไปในวัดเพื่อตัดกุญแจตรวจนับเงินตู้บริจาคที่เป็นปัญหายืดเยื้อยาวนานมากว่า 4 ปี เป็นคดีขึ้นโรงขึ้นศาล สุดท้ายก็มีการไกล่เกลี่ยที่ศาลจังหวัดพิจิตรเป็นคดีหมายเลขดำที่ พ 765/2560 ลงวันที่ 17 กรกฎาคม 2561 ซึ่งทุกฝ่ายดำเนินการเป็นการปฏิบัติตามคำสั่งศาลของผู้ที่เกี่ยวข้องในส่วนของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในวัดหลวงพ่อเงินบางคลานแล้วมีกลุ่มบุคคลรวมถึงนักข่าว-สื่อมวลชน และนักเลงคีย์บอร์ด ที่อาจไม่รู้ความจริง หรือ รู้ความจริงแต่ตั้งใจมีความพยายามจะกล่าวใส่ร้ายป้ายสีเจ้าคณะจังหวัดพิจิตรซึ่งเป็น เจ้าคณะพระผู้ปกครอง โดยกล่าวหาใน 3 ประเด็น คือ 1 โดยกล่าวหาและแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จกล่าวหาว่าเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ใช้อำนาจ ในการการที่ไปขอยืมเงิน จากวัดหิรัญญาราม หรือ วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน จำนวน 2 ล้านบาท ในการที่จะนำเงินไปสร้างพระอุโบสถวัดถ้ำชาละวันซึ่งในช่วงเวลานั้นเจ้าคณะจังหวัดพิจิตรเป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาสวัดถ้ำชาละวัน ซึ่งตั้งอยู่หมู่ที่ 1 บ้านดงชาละวัน ต.คลองคะเชนทร์ อ.เมือง จ.พิจิตร ในช่วงขณะนั้น เจ้าคณะจังหวัดชี้แจงว่าก็เป็นเรื่องปกติในหมู่พระสงฆ์ ว่าวัดไหนที่มีกำลังพอก็จะจุนเจือวัดเล็กหรือวัดในถิ่นทุรกันดาร ซึ่งก็ถือก็เป็นเรื่องปกติของวัดใหญ่ก็ควรจะสงเคราะห์วัดเล็ก ซึ่งเป็นการสงเคราะห์ ก็ไม่ได้ไปขู่เข็ญหรือบังคับแต่อย่างใด โดยการขอความร่วมมือในครั้งนั้นได้ทำเป็นหนังสือเป็นหลักฐานเป็นเรื่องเป็นราว ว่าเป็นการขอยืม ไม่ได้ขอมาเฉยเฉยๆ แล้วเมื่อวัดถ้ำชาละวันก่อสร้างหรือสำเร็จลุล่วงแล้วก็จะใช้คืนซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของคณะสงฆ์ ชี้แจงเพิ่มเติมอีกว่า แต่ที่ทำหนังสือไปยืมเงินเพื่อมาขอสร้างอุโบสถและวิหาร ที่วัดถ้ำชาละวัน ในคราวนั้น ก็ปรากฏว่า คณะกรรมการรวมถึงเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม หรือ วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ในขณะนั้น ก็ไม่ได้อนุมัติให้มีการยืมเงิน ซึ่งก็ไม่ได้ติดใจในเรื่องดังกล่าว ก็ถือว่าเป็นหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการ หรือของวัดที่ว่าจะให้ยืมหรือไม่ให้ยืมเงิน ก็ไม่ได้ติดใจอะไรส่วนในกรณีที่ อดีตเจ้าอาวาสวัดบางคลานถูกปลดออกจากตำแหน่งนั้น เป็นคนละกรณี กับการที่กล่าวหาเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร แล้วเอาเรื่องการขอยืมเงินมาเป็นข้อใส่ร้าย ซึ่งการปลดเจ้าอาวาสวัดบางคลานนั้นเป็นเรื่องที่ เจ้าอาวาสถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวน จนมีมติของคณะกรรมการ และคำสั่งพระมหาเถระ หรือ เจ้าคณะผู้ปกครองโดยลำดับชั้น มีคำสั่งให้เจ้าอาวาสวัดบางคลานออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาส จึงขอชี้แจงเรื่องเงินยืม 2 ล้าน ดังกล่าว ว่า สิ่งที่กล่าวหานั้น ไม่เป็นความจริง 2. เรื่องเงิน 5 แสนบาทที่มีใบอนุโมทนาบัตรของวัดถ้ำชาละวันเป็นหลักฐานเอามากล่าวร้ายป้ายสี ขอชี้แจงว่า กรณีบริจาคเงินสร้างพระประธานหรืออุโบสถวัดถ้ำชาละวันเรื่องนี้เป็นความศรัทธาของเจ้าอาวาสวัดบางคลานในขณะนั้น เนื่องจากในตอนนั้นเจ้าคณะจังหวัดจัดงานทอดผ้าป่าเพื่อจะสร้างพระอุโบสถที่วัดถ้ำชาละวัน ในคราวนั้นอดีตเจ้าอาวาสวัดบางคลาน ในสมัยที่ยังเป็นเจ้าอาวาสอยู่ก็สอบถามมายังเจ้าคณะจังหวัดว่า พระประธานในพระอุโบสถมีหรือยัง ท่านเจ้าคุณเจ้าคณะจังหวัดก็ตอบไปว่ายังไม่มี ท่านเข้าอาวาสวัดบางคลาน ( ในตอนนั้น )ก็ปาวรานา หรือแสดงความประสงค์ว่า จะขอเป็นเจ้าภาพ อีกทั้งยังถามว่าจะต้องใช้เงินเท่าไหร่ในการดำเนินการ สร้างพระประธานในโรงอุโบสถ เจ้าคณะจังหวัดก็บอกไปว่า ประมาณ 5 แสน บาท ท่านเจ้าอาวาสวัดบางคลาน (ในตอนนั้น )ก็ได้นำเงินมาบริจาคที่วัดถ้ำชาละวันในวันจัดงานทอดผ้าป่า ซึ่งเป็นการบริจาคต่อหน้าสาธารณชน ขึ้นทางวัดถ้ำชาละวัน ซึ่งในช่วงนั้นเจ้าคณะจังหวัดรักษาการเป็นเจ้าอาวาสวัดถ้ำชาละวันอยู่ จึงได้ออกใบอนุโมทนาบัตรให้เป็นหลักฐาน ซึ่งปัจจุบันนี้การก่อสร้างพระประธานก็เสร็จสมบูรณ์ เป็นพระหน้าตักกว้าง 54 นิ้วพุทธศาสนิกชนสามารถเข้าไปกราบไหว้ได้ พระประธานมีชื่อว่าพระพิจิตรพุทธมงคล ซึ่งเป็นการร่วมทำบุญไม่ใช่เป็นการจ่ายส่วยอย่างที่กล่าวอ้างใส่ร้าย ประเด็นที่ 3 ที่กล่าวหาว่า เจ้าคณะจังหวัดขู่เข็ญ บังคับให้เจ้าอาวาสวัดบางคลาน (ในตอนนั้น) จ่ายส่วยให้ไปเที่ยวต่างประเทศนั้นก็ไม่เป็นความจริงเช่นกัน... เรื่องจริงก็คือเจ้าอาวาสวัดบางคลาน (ในตอนนั้น ) ทราบว่าเจ้าคณะจังหวัด พิจิตรจะเดินทางไปต่างประเทศ เพื่อปฏิบัติศาสนกิจเพื่อไปประชุมร่วมกับสมัชชาคณะสงฆ์ที่ประเทศอเมริกา ซึ่งวัดบางคลานก็เสนอตัวโดย ถามมาว่า...หลวงพ่อ การเดินทางครั้งนี้มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ซึ่งเจ้าคณะจังหวัดก็ตอบไปว่าการเดินทางไปประชุมครั้งนี้มีค่าใช้จ่าย 160,000 บาท ซึ่งก็ไม่ได้ทำเป็นหนังสือขอหรือเอ่ยปากขอแต่อย่างได้ จู่ๆทางวัดบางคลานก็ให้ ผู้แทนนำเงินมาถวายให้ เพื่อไปปฏิบัติศาสนกิจยังต่างประเทศ ซึ่งประเด็นนี้วัดบางคลาน นำเรื่องดังกล่าวไปฟ้องร้องยังศาลยุติธรรม ซึ่งเมื่อถึงเวลาสืบพยาน กลับขอถอนฟ้อง ศาลไม่อนุญาต และไม่ยอมนำพยานเข้าสืบ ศาลจึงสอบถามข้อเท็จจริงเบื้องต้นแล้ววินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้กระทำความผิด ยกฟ้อง สรุปว่าเรื่องดังกล่าวไม่มีมูลความจริงว่าเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ไม่เคยไปบังคับขู่เข็ญหรือเก็บส่วยอย่างที่นำมากล่าวอ้างใส่ร้าย เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ฝากทิ้งท้าย กล่าวว่า...อยากบอกในสิ่งที่มีอีกหลายเรื่องที่เกิดขึ้นโดยหลายคนยังไม่รู้ความจริง ว่า เรื่องต่างๆได้ผ่านขบวนการของการฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาลมาแล้วถึง 3ศาล และคำพิพากษาในทุกคดีศาลก็พิจารณายกฟ้องไปหมดแล้ว ดังนั้นจึงขอร้องสื่อมวลชนและนักเลงคีย์บอร์ดบางท่านกรุณาฟังความจริงให้รอบด้านก่อนที่จะวิพากษ์วิจารณ์ ในส่วนของบรรยากาศที่ วัดหิรัญญาราม หรือ วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน นั้น ผู้ที่เกี่ยวข้องก็ยังคงเดินหน้าเข้าไปตรวจนับเงินบริจาคที่มีประมาณ 27 ตู้ เมื่อวานนี้และวันนี้ได้ใช้กำลังของนักเรียน-นักศึกษา จากวิทยาลัยชุมชนพิจิตรเกือบ 100 คน เข้ารับเงินจากตู้บริจาคเสร็จสิ้นแล้วได้เงินประมาณ 4 ล้านบาทเศษ (ยังไม่ได้นับเงินเหรียญ ) โดยเงินดังกล่าวรักษาการเจ้าอาวาส และคณะกรรมวัด ไวยาวัจกร วัดหิรัญญาราม หรือ วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ที่มีทั้งคนเก่าและคนใหม่ที่ได้รับการแต่งตั้งตามรายงานกระบวนพิจารณาศาลไกล่เกลี่ยคู่ความก็จะได้นำเข้าฝากที่ธนาคารต่อไป อีกทั้งวันต่อไปก็จะเข้าตรวจนับทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย ของการจำหน่ายวัตถุมงคล ซึ่งมีมูลค่ามหาศาลที่เป็นต้นเหตุของความวุ่นวายที่เกิดขึ้นที่ วัดหิรัญญาราม หรือ วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ดังกล่าว

ข่าวทั่วไป

  • nppct
  • 11 เม.ย. 2568
  • 181

กอ.รมน.- ตำรวจ.-ปกครองพิจิตร ตรวจสถานบันเทิงยามราตรีต้อนรับเทศกาล สงกรานต์ท่องเที่ยวปลอดภัย

เมื่อคืนที่ผ่านมา พ.อ.สัมฤทธิ์ ฉัตรวัฒนาสกุล รอง ผอ.รมน.จังหวัด พ.จ.(ท.) มอบหมายให้ พ.ต.รณชัย ประจันสี หน.ชุด ชรต.307 กอ.รมน.จังหวัด พ.จ. พร้อมด้วยกำลังพล กอ.รมน.จังหวัด พ.จ. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยว

อ่านต่อ...
ธรรมนัสจับมือ ธกส.เร่งแก้ปัญหาหนี้นอกระบบหนุนชาวนาพิจิตรปลูกข้าว กข79 ทำMOUส่งจีนล็อตแรก 1หมื่นตัน (25 ต.ค. 2562) เจาะข่าวธุรกิจขายตรง NYG มาแรงสวนกระแสเศรษฐกิจ (24 ต.ค. 2562) ชาวบ้านแห่ร้องศูนย์ดำรงธรรมอ้างนโยบายลุ่งตู่หลอกพาไปกู้เงินต้องเป็นหนี้ธนาคารแต่ไม่ได้จับเงิน (16 ต.ค. 2562) แม่น้ำพิจิตรวิกฤตซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่ชาวบ้านสู้สุดฤทธิ์รับมือวิกฤตสู้ภัยแล้ง (16 ต.ค. 2562) แม่น้ำยมส่งสัญญาณวิกฤตภัยแล้งแล้วชาวบ้านไม่รอภาครัฐรวมตัวทำฝายชะลอน้ำ (15 ต.ค. 2562) นายอำเภอเมืองพิจิตรนำชาวบ้าน-พระสงฆ์-ลิเก ปั่น ปันน้ำใจให้ผู้ป่วยผู้พิการติดบ้านติดเตียง (15 ต.ค. 2562) พิจิตรพาเที่ยวตลาดน้ำพระสงฆ์พายเรือบิณฑบาตชิมก๋วยเตี๋ยวปลากริมอร่อยแซ่บเว่อ (7 ต.ค. 2562) ผู้ว่าฯเมืองชาละวันสั่งเร่งช่วยแก้วิกฤตแม่น้ำพิจิตรเริ่มแห้งขอดหวั่นเกษตรกรเดือดร้อน (4 ต.ค. 2562) พิจิตรจัดเทศกาลกินเจแห่กินของฟรีประหยัดเงินได้บุญอิ่มท้อง (28 ก.ย. 2562) พิจิตรฝายน้ำล้นแตกชาวนาหวั่นไม่มีน้ำทำนาวอนเร่งแก้ก่อนรัฐแจกบัตรคนจนเพิ่ม (24 ก.ย. 2562)