พิจิตรวิกฤตโรงเรียนขนาดเล็กไม่มีครูจำนวนเด็กลดลงประกาศปิดอีก3โรงแถมส่อเค้าอนาคตอีก 13 โรงอาจไปไม่รอด

ความคืบหน้าจากปัญหาวิกฤตทางด้านการศึกษาของโรงเรียนระดับประถมศึกษาในพื้นที่ชนบทของจังหวัดพิจิตรที่มีรายงานเป็นข่าวไปแล้วว่า มีโรงเรียนหลายแห่งมีครูแค่เพียง 1 คน เป็นโรงเรียนขนาดเล็กที่มีเด็กนักเรียน 20-30 คน ขาดแคลนครูถึงขนาดที่ว่ากรรมการสถานศึกษารวมถึงผู้นำชุมชนต้องประกาศหาครูจิตอาสาหรือจัดการทอดผ้าป่าหาเงินไปจ้างครูให้กับเด็กนักเรียนในโรงเรียนของรัฐบาลทั้งๆที่รู้ว่าเป็นปัญหามายาวนานแต่ก็ไร้หนทางในการแก้ปัญหาคงปล่อยให้ชะตาชีวิตของเด็กน้อยตาดำๆที่พ่อ-แม่ มีฐานะยากจนรวมถึงเด็กบางคนก็เป็นเด็กที่พ่อ-แม่ทอดทิ้งให้อยู่กับ ตา-ยาย หรือ คนแก่ ที่หมดปัญญาจะส่งลูกหลานไปเรียนในเมืองจึงฝากความหวังไว้กับโรงเรียนใกล้บ้าน แต่แล้วพอถึงวันนี้โรงเรียนกลับไม่มีครู หรือมีครูเพียงแค่ 1-2 คนเท่านั้น แถมภารกิจและหน้าที่ที่นอกเหนือการสอนหนังสือเด็กๆในห้องเรียน การเข้าประชุมอบรมสัมมนา การทำเอกสารประเมินชี้วัดต่างๆก็มีมากมายจนทำให้แทบไม่มีเวลาในการสอนหนังสือเด็กต้องให้เรียนกับจอโทรทัศน์จนถึงวันนี้สถานการณ์วิกฤตบานปลายที่ยากเกินกว่าจะแก้ไขแล้ว ว่าที่ พ.ต.สุวิศิษฎ์ กันทา รอง ผอ.สพป.พิจิตรเขต 1 ได้ชี้แจงกับผู้สื่อข่าวว่า สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิจิตร เขต 1 มีโรงเรียนระดับประถมศึกษาอยู่ในความดูแล 137 โรงเรียน มีครูอยู่ในความดูแล 1,137 คน มีเด็กนักเรียนที่อยู่ในความรับผิดชอบและดูแล 17,944 คน สำหรับปัญหาของโรงเรียนที่มีครูเพียง 1 คน ขณะนี้มี 3โรงเรียน คือโรงเรียนวัดหงษ์ ต.ย่านยาว อ.เมืองพิจิตร มีเด็กนักเรียน 26 คน , โรงเรียนลำชะล่า ต.หัวดง อ.เมืองพิจิตร มีเด็กนักเรียน 6 คน , โรงเรียนวังกระโดน ต.โพธิ์ประทับช้าง อ.โพธิ์ประทับช้าง มีเด็กนักเรียน 12 คน จากปัญหาที่เกิดขึ้น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิจิตร เขต 1 ได้ดำเนินการจัดหาบุคลากรเข้าไปช่วยเหลือในด้านการเรียนการสอนแล้ว ส่วนปัญหาที่น่ากังวลว่าจะเปิดขึ้นในอนาคตนั่นคือโรงเรียนขนาดเล็กที่มีครู 2 คน จำนวน 13 โรงเรียน ได้แก่ 1.โรงเรียนวัดวังมะเดื่อ ต.ท่าฬ่อ อ.เมืองพิจิตร มีเด็กนักเรียน 27 คน 2. โรงเรียนวัดเนินสมอ ต.ป่ามะคาบ อ.เมืองพิจิตร มีเด็กนักเรียน 41 คน 3.โรงเรียนบ้านเนินยาว ต.หัวดง อ.เมืองพิจิตร มีเด็กนักเรียน 42 คน 4.โรงเรียนบ้านยางสามต้น ต.หนองพระ อ.วังทรายพูน ขณะนี้ไม่มีเด็กนักเรียนมีครู 2 คน ก็ให้ย้ายไปช่วยสอนที่โรงเรียนใกล้เคียงแต่ตำแหน่งครูและโรงเรียนยังไม่ได้ปรับยุบอย่างเป็นทางการ 5. โรงเรียนบ้านห้วยคำตาล ต.ทุ่งใหญ่ อ.โพธิ์ประทับช้าง มีเด็กนักเรียน 20 คน 6. โรงเรียนบ้านหนองคล้า ต.เนินสว่าง อ.โพธิ์ประทับช้าง มีเด็กนักเรียน 41 คน 7. โรงเรียนวัดไผ่รอบ ต.ไผ่รอบ อ.โพธิ์ประทับช้าง มีเด็กนักเรียน 31 คน 8. โรงเรียนบ้านหนองไม้แดง ต.ไผ่รอบ อ.โพธิ์ประทับช้าง มีเด็กนักเรียน 32 คน 9. โรงเรียนวัดใหม่ราษฎร์บำรุง ต.สามง่าม มีเด็กนักเรียน 41 คน 10. โรงเรียนบ้านหนองจั่ว ต.คลองทราย อ.สากเหล็ก มีเด็กนักเรียน 36 คน 11. โรงเรียนบ้านหนองสองห้อง ต.วังทับไทร อ.สากเหล็ก มีเด็กนักเรียน 31 คน แต่หลังจากวันที่ 1 ต.ค. 2561 จะมีครูปลดเกษียณ 1 คน โรงเรียนนี้ก็จะเหลือครูเพียงคนเดียว 12. โรงเรียนบ้านคลองทรายราษฎร์อุทิศ ต.หนองหญ้าไทร อ.สากเหล็ก มีเด็กนักเรียน 24 คน 13. โรงเรียนบ้านบัวยาง ต.หนองหลุม อ.วชิรบารมี มีเด็กนักเรียน 26 คน ซึ่งโรงเรียนทั้ง 13 แห่งนี้ วันนี้ยังมีครู 2 คน ซึ่งถ้าพิจารณาดูแล้วในอนาคตไม่มีเด็กนักเรียนเพิ่มขึ้นก็จะหนีไม่พ้นที่จะต้องเข้าสู่ภาวะวิกฤตที่ไม่มีเด็กนักเรียนก็ไม่ได้อัตรากำลังครูผู้สอนเพิ่มตามหลักการที่วางเอาไว้ ว่า ถ้ามีเด็กนักเรียน 20 คน ก็จะได้ครู 1 คน ดังนั้นหากไม่เป็นไปตามหลักการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิจิตร เขต 1 ก็มีความจำเป็นที่จะต้องยุบรวมโรงเรียนที่ไม่เข้าหลักการให้เด็กนักเรียนไปเรียนรวมกันในโรงเรียนที่ใกล้เคียง โดยซึ่งทุกวันนี้ก็มีการดำเนินการแบบนี้แล้วหลายแห่ง โดย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิจิตร เขต 1 มีงบประมาณในการว่าจ้างรถรับส่งนักเรียนให้อีกด้วย ว่าที่ พ.ต.สุวิศิษฎ์ กันทา รอง ผอ.สพป.พิจิตรเขต 1 ยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ตลอดระยะเวลา 10 ปี ที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2551 – 2561 มีการประกาศเลิกสถานศึกษา หรือปิดโรงเรียนในพื้นที่ชนบทที่มีนักเรียนเหลือน้อย ไปแล้วไม่น้อยกว่า 40 โรงเรียน ล่าสุดวันที่ 1 ต.ค. 2561 โรงเรียนดงป่าคำ ต.ดงป่าคำ อ.เมือง จ.พิจิตร โรงเรียนนี้มีเด็กนักเรียน 12 คน ก็จะต้องถูกยุบโรงเรียนให้ย้ายรวมไปเรียนรวมกันที่โรงเรียนดงกลาง ซึ่งอยู่ในตำบลเดียวกัน เช่นเดียวกับ อีกทั้งเมื่อเร็วๆนี้ โรงเรียนวัดหนองจิกเภา ต.หนองปล้อง อ.วังทรายพูน , โรงเรียนบ้านหนองปลาไหล ต.หนองปลาไหล ก็ได้ถูกประกาศยุบโรงเรียนไปแล้วเนื่องจากไม่มีเด็กนักเรียนด้วยเช่นกัน ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า...สาเหตุของการยุบโรงเรียนขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ชนบทเนื่องจากจำนวนประชากรหรือจำนวนของเด็กที่เกิดใหม่มีจำนวนลดลง , การคมนาคมสะดวกขึ้น ผู้ปกครองจึงมีค่านิยมส่งลูกหลานให้ขึ้นรถรับ-ส่งนักเรียนเสียเงินค่ารถ 800-1,000 บาท มาจากพื้นที่ต่างอำเภอเดินทางระยะทาง 15- 40 กม. เพื่อเข้ามาเรียนในเมืองพิจิตรทั้งโรงเรียนของรัฐและของเอกชน ซึ่งเด็กๆต้องตื่นตั้งแต่ตี 5 กลับถึงบ้าน 5 โมงเย็น จึงทำให้เกิดธุรกิจโรงเรียนเอกชนผลุดขึ้นเป็นดอกเห็ดแถมได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลทั้งการอุดหนุนเงินให้เป็นค่าจ้างครูและเงินอุดหนุนให้กับโรงเรียนเอกชนที่มีนักเรียนตามจำนวนรายหัวอีกด้วย รวมถึงเกิดธุรกิจรถรับ-ส่งนักเรียน จากชนบทพาเด็กๆเข้ามาเรียนในเมืองจำนวนหลายร้อยคัน อีกทั้งครูที่วิ่งเต้นขอย้ายหนีจากโรงเรียนบ้านนอกเข้ามาอยู่ในเมืองเพื่อรับจ้างสอนพิเศษมีรายได้เพิ่ม ดีกว่าเป็นครูอยู่โรงเรียนบ้านนอก ครูโรงเรียนบ้านนอกที่อยู่จนถึงปลดเกษียณพอถึงเวลาปลดเกษียณออกไปแล้วก็ไม่มีครูใหม่มาทดแทน ผู้ปกครองที่พอมีฐานะเล็งเห็นแล้วว่าถ้าให้ลูกหลานฝืนเรียนอยู่ในโรงเรียนใกล้บ้านที่ไม่มีครูอนาคตก็จะไม่สดใส จึงต้องกัดฟันทนหาเงินส่งลูกเข้ามาเรียนในเมือง ส่วนโรงเรียนใกล้บ้านหรือโรงเรียนขนาดเล็กในพื้นที่ห่างไกลความเจริญเด็กที่ยังมีเรียนอยู่ก็ล้วนเป็นลูกของชาวไร่ ชาวนา หรือลูกของชนชั้นแรงงานที่หาเช้ากินค่ำ แต่พอถึงวันนี้โรงเรียนใกล้บ้านที่ฝากความหวังว่าลูกคนจนจะมีสิทธิมีเสรีภาพทางด้านการศึกษาอย่างเท่าเทียมกันตามที่เขียนไว้อย่างสวยหรูในรัฐธรรมนูญ แต่ความเป็นจริง คือ วิกฤตปัญหาการศึกษาที่เกิดขึ้นดังกล่าว

ข่าวทั่วไป

  • nppct
  • 6 เม.ย. 2567
  • 212

โรงไฟฟ้าซุปเปอร์เอิร์ธเอนเนอร์ยี6ใส่ใจสิ่งแวดล้อมเป็นมิตรกับชุมชน

โรงไฟฟ้า ซุปเปอร์เอิร์ธ เอนเนอร์ยี 6 ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าในนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือตอนล่างจังหวัดพิจิตร ได้เปิดเผยถึงการทำกิจกรรม CSR ในพื้นที่ ตำบลหนองหลุม อำเภอวชิรบารมี ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานในช่วงเดือ

อ่านต่อ...
พิจิตรฝนตกต่อเนื่องน้ำเหนือไหลบ่าทำพื้นที่ลุ่มต่ำน้ำท่วม12อำเภอ46ตำบล (28 ก.ย. 2564) คุณพระช่วย!พระครูยังวัดสามง่ามยกสำนักปฏิบัติธรรมสถานที่สุดหรูให้เป็นโรงพยาบาลสนาม (9 ส.ค. 2564) ปปท.เขต6ติดอาวุธทางปัญญาสร้างเครือข่ายให้ความรู้ชาวเมืองชาละวันปราบโกงยุคโควิด (6 ส.ค. 2564) Happy Birthday นราพัฒน์ แก้วทอง มอบของขวัญวันเกิดให้ตัวเองด้วยการให้ (2 ส.ค. 2564) ด้วยความห่วงใย !ไพฑูรย์-นราพัฒน์ แก้วทองและกลุ่มเพื่อน วธอ.4 New Tokyo มอบเตียงสร้าง รพ.สนาม วชิรบารมี (30 ก.ค. 2564) แทนคุณแผ่นดินบ้านเกิด ไพฑูรย์ -นราพัฒน์ แก้วทอง ตระเวนมอบเงินช่วย รพ.สนาม ในพิจิตร (26 ก.ค. 2564) ชลประทานพิจิตรเตรียมสูบน้ำจากแม่น้ำยมส่งเข้าคลองบ้านไร่หลวงพ่อขวัญสามง่ามเพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศ (22 ก.ค. 2564) พิจิตรเหตุฝนทิ้งช่วงนาข้าวหอมมะลิอำเภอทับคล้อนับหมื่นไร่จ่อแห้งตาย (11 มิ.ย. 2564) ชาวนาพิจิตรเปิดศึกแย่งน้ำชลประทานจับมือฝ่ายปกครองตั้งโต๊ะเจรจาจัดรอบเวรสลับกันสูบน้ำ (10 มิ.ย. 2564) พิจิตรนาข้าว 5 ตำบล 2 หมื่นไร่ วิกฤต ฝนทิ้งช่วงชลประทานจับมือ อบจ.เปิดทางส่งน้ำเร่งช่วย (3 มิ.ย. 2564)