พิจิตรชาวบ้านและวัดดงตะขบกวนกระยาสารทประยุกต์หลากรสหาเงินเข้าวัด
“บวรร่วมใจ”บ้าน –วัด – โรงเรียน ร่วมสืบสานประเพณีเพ็ญเดือนสิบของชาวบ้านตำบลดงตะขบ อำเภอตะพานหิน จัดพิธีกวนกระยาสารทโบราณ ภายใต้ชื่องาน “ประชาวัด ประชารัฐ รวมใจ ใส่ใจคุณธรรม”ประยุกต์สูตรรสชาเขียว รสโอวัลติน ถูกใจคนรุ่นใหม่ พระราชสิทธิเวที (ดร.) เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นางณิทฐา แสวงทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ร่วมกันเปิดงานที่วัดดงตะขบ ตำบลดงตะขบ อำเภอตะพานหิน ได้มีการจัดงาน "ประชาวัด ประชารัฐ รวมใจ ใส่ใจคุณธรรม ภายใต้โครงการชุมชนคุณธรรมขับเคลื่อนด้วยพลังบวรวัดดงตะขบ" สำหรับการจัดงานในครั้งนี้มีพระสงฆ์ ชาวบ้าน นักเรียน ร่วมพิธีการสืบสานพลังประชาวัด โดยที่มาของงานกล่าวคือ เมื่อถึงฤดูกาลสารทเดือนสิบของทุกปี ซึ่งตรงกับวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 พุทธศาสนิกชนทั้งหลายชาวบ้านในหมู่บ้านดงตะขบ จะร่วมกันกวนกระยาสาร ซึ่งเป็นวัฒนธรรมดั้งเดิมของหมู่บ้านที่มีมาแต่โบราณ เป็นการสืบทอดความเชื่อและเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้แก่ญาติผู้ล่วงลับไปแล้ว จนกลายมาเป็นประเพณีสารทไทยวัดดงตะขบ นับเป็นวิถีธรรม วิถีไทยที่ดีงาม และช่วยส่งเสริมอาชีพให้กับชุมชน จนเป็นที่มาของคำว่า "ประชาวัด" ที่มาจากการรวมพลังศรัทธาจากทุกภาคส่วนโดยใช้วัดเป็นศูนย์กลางการจัดกิจกรรมของชุมชน และยังตรงกับนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน โดยหลัก "บวร" ให้ บ้าน วัด และโรงเรียน ได้มีส่วนร่วมในการทำงานร่วมกัน สำหรับวิธีการทำกระยาสารทของชาวบ้านดงตะขบนั้น จะใช้วัตถุดิบที่ได้จากในชุมชน เช่น ข้าวเม่า น้ำตาลอ้อย ถั่วลิสง งา มะพร้าว นำมากวนกระยาสารท แต่เพื่อให้เข้ากับยุคสมัยจึงมีการประยุกต์การทำกระยาสารทด้วยการทำเป็นรสชาเขียว รสโอวัลติน และรสชาติสูตรดั้งเดิม สร้างสีสันให้ดูน่ากินให้ถูกใจคนรุ่นใหม่ กรรมวิธีการของการกวนกระยาสารท คือ เริ่มจากการให้ชาวบ้าน นำข้าวเม่า ถั่วลิสง งา มาคั่วจนสุก พอประมาณ แล้วให้นักเรียนนำไปตำ และฝัดออกเพื่อแยกเปลือกและเมล็ดข้าวเม่าออกจากกัน และชาวบ้านกับพระสงฆ์ ช่วยกันนำกะทิและน้ำตาลอ้อยมาเคี่ยวจนเหนียวเป็นยางมะตูม เมื่อได้ที่แล้ว จะนำข้าวเม่า ถั่วลิสง และงาที่เตรียมไว้ ลงไปผสมในน้ำกะทิ และเคี่ยวไปเรื่อยๆด้วยไฟฟืนอ่อน จนส่วนผสมเข้ากันแล้วจึงนำไปใส่ถาดพักไว้ให้เย็น และชาวบ้านจะนำมาปั้นใส่ถุง จำหน่าย โดยจำหน่ายที่กิโลกรัมละ 120 บาท เท่านั้น รายได้ทั้งหมดหลังหักค่าใช้จ่ายจะนำไปเป็นทุนในการ พัฒนา ซ่อมแซมวัด เพื่อสืบสานพระพุธศาสนาให้อยู่สืบต่อไป จะเห็นได้ว่า งานประเพณีดังกล่าว พระราชสิทธิเวที ดร. เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และทางคณะสงฆ์จังหวัดพิจิตร ได้มีส่วนร่วมในการเข้ามาสนับสนุนประเพณีดังกล่าว เพราะเล็งเห็นว่า ประเพณีดังกล่าวมีความสอดคล้องกับความเชื่อของพุทธศาสนิกชน ที่เชื่อว่าบรรพบุรุษ อันได้แก่ ปู่ ย่า ตา ยาย และ ญาติพี่น้อง ที่ล่วงลับไปแล้ว หากทำความดีไว้ เมื่อครั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ จะได้ไปเกิดในสรวงสวรรค์ ต้องอาศัยผลบุญ ที่ลูกหลานอุทิศส่วนกุศลให้ในแต่ละปี มายังชีพ ดังนั้น ในวันแรม 1 ค่ำเดือนสิบ คนบาปทั้งหลาย ที่เรียกว่า เปรต จึงถูกปล่อยตัว กลับมายังโลกมนุษย์ เพื่อมาขอส่วนบุญ จากลูกหลาน ญาติพี่น้อง และจะกลับไปนรกดังเดิม ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น ในวันแรม 15 ค่ำเดือนสิบ โอกาสนี้เองลูกหลาน และผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ จึงนำ อาหารโดยเฉพาะกระยาสารทไปทำบุญที่วัด เพื่ออุทิศส่วนกุศล ให้แก่ผู้ล่วงลับไปแล้ว เป็นการแสดงความกตัญญูกตเวที ตามความเชื่อของหลักพระพุทธสาสนาดังกล่าว สำหรับท่านที่สนใจต้องการจะลองชิมกระยาสารทจากวัดดงตะขบ สามารถสั่งซื้อได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 082-164-4897 นอกจากได้อร่อยแล้ว ยังได้บุญอีกด้วย