
เหมืองทองอัคราตรวจสุขภาพชาวบ้านมั่นใจคาดเป็นนัยสำคัญอาจได้กลับมาเปิดกิจการอีกครั้ง
เรื่องวุ่นๆของเหมืองทองอัคราพิจิตร ส่อเค้าว่าใกล้จะได้ข้อยุติเร็วๆนี้ ล่าสุดมีการจัดทำข้อมูลพื้นฐานด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน สำหรับการทำเหมืองแร่ทองคำและการประกอบโลหกรรมแร่ทองคำ สุ่มตัวอย่างชาวบ้าน 400 คน ในรัศมี 5 กิโลเมตร รอบเหมืองทอง ทำการตรวจสุขภาพคาดเป็นนัยสำคัญอาจได้กลับมาเปิดกิจการอีกครั้ง ส่วนเรื่องผลฟ้องร้องอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศคาดก่อนสิ้นปีรู้ว่าใครจะแพ้ ใครจะชนะ วันที่ 17 ส.ค. 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของเหมืองทองอัครา ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.เขาเจ็ดลูก อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร ว่า ในช่วงระหว่าง 14 - 16 ส.ค. 2563 ได้มีการจัดให้มีการตรวจสุขภาพชาวบ้านที่อยู่รอบเหมืองทองอัคราในรัศมี 5 กม. ซึ่งประกอบด้วยชาวบ้านจากในเขต ต.วังโพรง อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก โดยใช้สถานที่วัดวังขวัญ , ชาวบ้านจาก ต.ท้ายดง อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ โดยใช้สถานที่วัดวังชะนาง , ชาวบ้านจาก ต.เขาเจ็ดลูก อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร โดยใช้สถานที่วัดหนองขนาก เป็นสถานที่ตรวจสุขภาพชาวบ้านทุกเพศ ทุกวัย โดยใช้การหลักการสุ่มตัวอย่างชาวบ้านจำนวน 400 คน ซึ่งเป็นการดำเนินการตาม “ข้อเสนอแผนงานการจัดทำข้อมูลพื้นฐานด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภพของประชาชน สำหรับการทำเหมืองแร่ทองคำและการประกอบโลหกรรมแร่ทองคำของบริษัทอัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ซึ่งการดำเนินการตรวตสุขภาพในครั้งนี้มีแพทย์จากโรงพยาบาลพุทธชินราช จ.พิษณุโลก และคลินิกห้องแล็บเอกชนภายใต้การกำกับดูแลของแพทย์จาก รพ.พุทธชินราช
สำหรับการดำเนินการตรวจสุขภาพชาวบ้านรอบเหมืองทองอัคราครั้งนี้จากการสอบถามชาวบ้านว่าคิดอย่างไร ? ชาวบ้านต่างตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า น่าจะเป็นนัยสำคัญหรือข่าวดีที่เหมืองทองอัคราอาจจะได้กลับมาเปิดกิจการอีกครั้ง ซึ่งเป็นการดีต่อการสร้างงานให้กับคนในชุมชน ในส่วนของเรื่องที่เหมืองทองอัคราฯมีการฟ้องร้องรัฐบาลไปยังอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศเพื่อขอความเป็นธรรมจากการที่รัฐบาลยุค คสช. ใช้ ม.44 สั่งปิดอย่างกระทันหันมาตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2559 ทำให้มีพนักงานที่เป็นชาวบ้านและคนในท้องถิ่นนับพันคนต้องตกงานทันที ซึ่งผู้บริหารของเหมืองทองอัคราหลีกเลี่ยงที่จะให้สัมภาษณ์เรื่องนี้พูดแค่เพียงสั้นๆว่า “น่าจะรู้ผลก่อนสิ้นปี 2563 นี้”