เจ้าเมืองชาละวันคนใหม่ประชุมแจงนโยบายหนุน อบจ.พิจิตร พัฒนาบึงสีไฟ เป็นแหล่งท่องเที่ยว
วันที่ 4 ตุลาคม 2564 นายไพบูลย์ ณะบุตรจอม ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ซึ่งมารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 64 ดังนั้นวันนี้จึงมีการประชุมหัวหน้าส่วนราชการและผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งถือเป็นภารกิจที่สำคัญ โดยจัดประชุมชี้แจงนโยบายขึ้นที่หอประชุมใหญ่ศาลากลางจังหวัดพิจิตร โดยมี พ.ต.อ. กฤษฎา ภัทรประสิทธิ์ นายก อบจ.พิจิตร , นายพิศ วิริยะอารีธรรม ประธานสภา อบจ.พิจิตร และผู้นำส่วนท้องถิ่นอีกหลายท่านเข้าร่วมรับฟังนโยบายของ ผู้ว่าฯในครั้งนี้ โดย นายไพบูลย์ ณะบุตรจอม ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้ให้หลักการทำงานว่า ยึดหลัก 4 ร. 3 จ. คือ รวดเร็ว เรียบร้อย รายงาน ร่วมมือ และ จงคิด จงสั่ง จงตรวจ รวมถึงโครงการงานต่างๆที่เป็นการพัฒนาจังหวัดพิจิตรทุกหน่วยงานจะต้องเร่งรัดการทำงานโดยจะดูตัวเลขการเบิกจ่ายงบประมาณเป็นสำคัญ
นอกจากนี้ยังมีนโยบายจะส่งเสริมจังหวัดพิจิตรให้เป็นพื้นที่ทำการเกษตรอินทรีย์ และการทำโคก หนอง นา และพัฒนาบึงสีไฟให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยในที่ประชุม ผู้ว่าฯพิจิตร ได้แจ้งให้ทราบว่า อบจ.พิจิตร มีความประสงค์จะดำเนินการกำจัดวัชพืชในบึงสีไฟเพื่อให้เห็นท้องน้ำที่กว้างใหญ่ของบึงสีไฟ โดยขอให้สำนักงานจังหวัดเร่งทำหนังสือเพื่อจะอนุมัติและสั่งการให้ อบจ.พิจิตร เข้าดำเนินการตามวัตถุประสงค์ นอกจากนี้ผู้ว่าฯพิจิตร ยังขอให้ สนง.สสจ.พิจิตร เร่งรัดการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน โดยล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาบุคลากรทางการแพทย์ก็ได้ทำการฉีดวัคซีนให้กับ นักเรียนของ ร.ร.สระหลวงพิทยาคม จำนวน 176 คน ซึ่งเป็นนักเรียนระดับชั้น ม.6 อายุ 16-18 ปี และหลังจากนี้ภายใน 15 วัน ก็จะเร่งฉีดวัคซีนให้กับนักเรียนระดับอาชีวะ และ มัธยมปลาย ที่มีอายุ 16-18 ปี ซึ่งตอนนี้ได้รับวัคซีน Pfizer มาแล้ว 14,600 โดส ด้วยแล้ว
ในส่วนเรื่องการพัฒนาบึงสีไฟ ผู้ว่าฯพิจิตร ก็ได้สั่งการให้ผลประทานพิจิตร เร่งเติมน้ำเข้าบึงสีไฟ ซึ่ง นายอำนาจ อินทร์วงศ์แก้ว ผอ.โครงการชลประทานพิจิตร ก็ได้รายงานในที่ประชุมว่าบึงสีไฟมีกำลังการรับน้ำได้ 12.6 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งขณะนี้มีปริมาณน้ำ 91.37% และจะเติมน้ำเข้าบึงสีไฟอย่างต่อเนื่องเพื่อให้บึงสีไฟเป็นแก้มลิงกักเก็บน้ำและเป็นแหล่งน้ำเพื่อการท่องเที่ยวตามเจตนาและนโยบายของผู้ว่าฯพิจิตรดังกล่าวต่อไป
