พิจิตรเกษตรกรตัดสินใจเลิกทำนาใช้พื้นที่7ไร่ปลูกอินทผลัมใช้เวลา2ปีเศษแทบไม่น่าเชื่อมีผู้สั่งจองขอซื้อผลผลิตมั่นใจรายได้เป็นล้านชัวร์

4 กรกฎาคม 2561 นายกิตติชาติ ชาติยานนท์ เกษตรจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วย นายสามารถ เดชบุญ หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิต ลงพื้นที่เยี่ยมเกษตรกรหัวก้าวหน้าใฝ่หาความรู้ที่ตัดสินใจเลิกทำนาหันมาปลูกอินทผลัม โดยลงพื้นที่พบกับ นายชาตรี อ๊อดหมี “ตั๊ก” อายุ 58 ปี ซึ่งทำแปลงปลูกอินทผลัม อยู่ที่หมู่ 9 ตำบลสากเหล็ก อำเภอสากเหล็ก จังหวัดพิจิตร บนพื้นที่ 7 ไร่ ซึ่งเคยเป็นพื้นที่ทำนาปลูกข้าว จากนั้นปรับเปลี่ยนมาปลูกอินทผลัม ทั้งหมดประมาณ 230 ต้น ปลูกระยะ 6 X 6 เมตร เป็นอินทผลัมสายพันธุ์ “บาร์ฮี” หรือ “บัรฮี” เป็นพันธุ์ที่เหมาะสำหรับการทานผลสดโดยเฉพาะ มีแหล่งกำเนิดในประเทศอิรัก ปัจจุบันมีการปลูกกันแพร่หลายในหลายประเทศ กล่าวกันว่า พันธุ์ Barhi เป็น "แอปเปิลแห่งตะวันออกกลาง" โดย นายชาตรี อ๊อดหมี “ตั๊ก” เล่าว่าได้ไปดูงานนิทรรศการที่ ม.แม่โจ้ เชียงใหม่ เกิดความสนใจจึงได้ลงทุนซื้อต้นพันธุ์อินทผลัมเพาะเนื้อเยื่อมาจำนวน 118 ต้น ๆ ละ 1,200 บาท อีก 112 ต้น เป็นพันธุ์ที่เพาะเมล็ด พันธุ์แม่โจ้ 36 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ไทย ราคาต้นละ 250 บาท พร้อมทั้งลงทุนขุดสระน้ำเอาดินมาถมพื้นที่นา 7 ไร่ ให้เป็นแปลงปลูกอินทผลัม ลงทุนครั้งแรกประมาณ 3-4 แสนบาทเศษ บริหารจัดการใช้ระบบการให้น้ำแบบปล่อยน้ำด้วยระบบท่อใส่ต้น ทุกต้น การให้ปุ๋ยพื้นที่ 7 ไร่ 2 ปี ที่ผ่านมาก็ใส่ปุ๋ยแค่ 10 กว่ากระสอบเท่านั้น เฝ้าระวังเรื่องโรคแมลงและหนูนาที่ชอบมากัดกินผลผลิต วิธีป้องกันก็จะห่อช่อของอินทผลัมด้วยผ้ารี่หรือผ้าตาข่ายพลาสติกแล้วห่อด้านนอกซ้ำด้วยกระดาษฟอยด์ ซึ่งจะห่อในช่วงที่อินทผลัมเริ่มออกช่อและผสมเกสรประมาณเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปีและต้องมีการตัดแต่งผลเพื่อให้ลูกโตได้ขนาดตามความต้องการ ขณะนี้ปลูกมาเป็นระยะเวลา 2 ปีเศษ ผลผลิตรุ่นแรกที่จะเก็บขายสร้างรายได้ก็คือในช่วงนี้ คือ ราวกลางเดือนกรกฎาคม 2561นี้ สำหรับเรื่องการตลาดขณะนี้มีผู้สนใจมาจับจองซื้อถึงหน้าสวนโดยจ่ายเงินล่วงหน้ามัดจำไว้แล้วก็มี ซึ่งก็เป็นพ่อค้าและแม่ค้าจาก จ.ปัตตานี จ.นครนายก จ.สระบุรี สำหรับราคาซื้อขายเปิดราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 500 บาท พื้นที่ 7 ไร่ ใช้เวลา 2 ปี ปลูกอินทผลัม 230 ต้น ต้นหนึ่งได้ผลผลิตประมาณ 20 กิโลกรัม ดังนั้นจึงคาดว่าจะได้เงินจากการขายผลผลิตอินทผลัมในรุ่นแรกนี้ไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาทเศษ อย่างแน่นอน ซึ่ง 1 ปีก็จะได้ 1 ครั้ง ดีกว่าการทำนาหลายเท่าตัว ในส่วนของ นายกิตติชาติ ชาติยานนท์ เกษตรจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า เกษตรกรรายนี้ถือได้ว่าเป็นผู้มีแนวคิดและใฝ่รู้ศึกษาในการปรับเปลี่ยนจากการปลูกข้าวหันมาปลูกอินทผลัม ซึ่งถือเป็นพืชเศรษฐกิจที่ชาวตะวันออกกลางหรือชาวมุสลิมนิยมบริโภค แต่ขอให้คำแนะนำกับเกษตรกรท่านอื่นๆ ที่สนใจหรือจะทำตามว่า ขอให้ศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน ทั้งนี้เพื่อลดอัตราความเสี่ยง ซึ่งถ้าหากสนใจสำนักงานเกษตรจังหวัดพิจิตรก็พร้อมจะเป็นพี่เลี้ยงหรือที่ปรึกษาให้ในเรื่องการทำเกษตรที่ดีและเหมาะสม (GAP) สำหรับข้อมูลที่ควรรู้เกี่ยวกับอินทผลัม ก็คือ อินทผลัม เป็นผลไม้ที่ไม่มีครอเลสเตอรอลและไขมันต่ำ นอกจากนี้เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ได้แก่ วิตามิน A, วิตามิน B1, วิตามิน B2, วิตามิน B6, วิตามิน K, แคลเซียม, ซัลเฟอร์, เหล็ก, โพแทสเซียม, ฟอสฟอรัส, แมงกานิส, แมกนีเซียม และน้ำมันโวลาไทล์ แถมยังอุดมไปด้วยไฟเบอร์ ซึ่งช่วยในการลดอาการท้องผูก ตามความเชื่อในคัมภีร์อัลกุรอานช่วยรักษาและบำบัดพิษต่าง ๆ ด้วยการรับประทานวันละ 7 เม็ด ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ เพราะในมีสารฟีลกูลีน ซึ่งช่วยบำรุงการหลั่งน้ำเชื้อของเพศชายได้ อุดมไปด้วย เบต้าแคโรทีน ลูติน และซีแซนทิน ซึ่งมีส่วนช่วยป้องกันมะเร็งในช่องท้อง ช่วยบำรุงร่างกาย แก้โรควิงเวียนศีรษะ แก้กระหาย ช่วยลดเสมหะภายในลำคอ หากรับประทานยามเช้าขณะท้องว่าง จะทำการฆ่าเชื้อโรค พยาธิ และสารพิษที่ตกค้างที่อยู่ในลำไส้ และระบบทางเดินอาหาร เพราะมีฤทธิ์ในการกำจัดสารพิษและช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคบางชนิดซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง และจากรายงานการวิจัยในประเทศซาอุดีอาระเบีย พบว่าสามารถช่วยทำให้กระเพาะอาหารแข็งแรง และช่วยป้องกันเยื่อบุในกระเพาะอาหาร ช่วยลดความรุนแรงของแผลในกระเพาะอาหาร นอกจากนี้สดนั้นยังมาคั้นเป็นน้ำเพื่อดื่มโดยก็มีประโยชน์ไม่แพ้ผลแห้งเลยแม้แต่น้อย สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิต สำนักงานเกษตรจังหวัดพิจิตร 056-613423 ต่อ 103 และ นายชาตรี “ตั๊ก” เกษตรกรผู้ปลูกอินทผลัม โทร 081-9623524

อื่นๆ

  • nppct
  • 12 เม.ย. 2568
  • 508

รองผู้ว่าฯพิจิตร นำทีมกอ.รมน.-ปกครอง-ตำรวจรื้อทุบแหล่งเสื่อมโทรมเกี่ยวข้องยาเสพติดภายในสนามกีฬาด้านหลังสถานศึกษา

วันที่ 11 เมษายน 2568 นางสาวธนียา นัยพินิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร มอบให้ นายกิตติพล เวชกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร, พ.อ.สัมฤทธิ์ ฉัตรวัฒนาสกุล รอง ผอ.รมน.จังหวัดพิจิตร , นายรณรงค์ สิทธิเขตกรณ์

อ่านต่อ...
ผู้ว่าฯพิจิตรจัดตลาดนัดโรงสีพบชาวนาเปิดรับซื้อข้าวความชื้น15%ตันละ7,600บาท (9 เม.ย. 2568) เหมืองทองอัคราสนับสนุนทีมฟุตบอลพิจิตรยูไนเต็ดส่งเสริมเยาวชนเล่นกีฬาฟุตบอลเพื่อสุขภาพและต้านยาเสพติด (24 มี.ค. 2568) ชลประทานพิจิตรเข้าตรวจนับอุปกรณ์ประตูระบายน้ำท่าแหแม่น้ำยมเตรียมพร้อมรับโอนเพื่อบริหารจัดการ (24 มี.ค. 2568) ชาวนาเมืองชาละวันขายข้าวนานข้ามปีไม่ได้เงินส่อถูกโกงสภาเกษตรพาร้องทุกข์วอนอัยการสคช.พิจิตร ดำเนินคดี (18 มี.ค. 2568) AIS ร่วมจำหน่าย“วันอาทิตย์”บริการโซลาร์บ้านครบวงจร โดย กัลฟ์1 ที่ AIS Shop ทั่วประเทศ เติมเต็มไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม (17 มี.ค. 2568) AIS ชวนลูกค้ายืนยันตัวตนที่ AIS Shop และจุดบริการทั่วประเทศ เสริมความปลอดภัย อุ่นใจยิ่งกว่า พร้อมลุ้นทองคำกว่า 1.6 ล้านบาท (12 มี.ค. 2568) มีข่าวดีมาบอก! กรมชลประทานเดินหน้าเร่งทำแผนพัฒนาลุ่มน้ำยมตอนบนและตอนล่างครอบคลุมพื้นที่4จังหวัด (1 มี.ค. 2568) กรมชลประทานมั่นใจ ปตร.ท่าแห มีความพร้อมบริหารจัดการน้ำเพื่อช่วยแก้ปัญหาภัยแล้ง-น้ำท่วมให้กับเกษตรกรลุ่มน้ำยม (19 ก.ย. 2567) กรมชลประทานเร่งงานก่อสร้าง ปตร.โพธิ์ประทับช้างเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้แล้ว (16 ก.ย. 2567) วินัย ส.ส.พิจิตรเขต2นำทีมแจกถุงยังชีพผู้ประสบภัย10อำเภอ3,084ชุด (15 ต.ค. 2566)